ธนชาต เดินหน้าขยายฐานรายย่อย เน้นเงินฝากต้นทุนต่ำ พร้อมออกโปรฯ “ไม่ต้องรอ ไม่ต้องลุ้น รับสิทธิประโยชน์เพิ่มทันที” ดันยอดผูกบัญชีพร้อมเพย์ ด้านสินเชื่อรุกปล่อยกู้ซื้อบ้าน หลังปรับระบบภายในเสร็จหวังเติบโตได้สองหลัก
นางธีรนุช ขุมทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)(TBANK)กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มลูกค้ารายย่อยเงินฝาก และสินเชื่อที่ไม่รวมเช่าซื้อของธนาคารในช่วงที่เหลือของปีนั้น ในส่วนของเงินฝากจะเน้นเติบโตในกลุ่ม CASA โดยตั้งเป้าหมายเงินฝากครึ่งปีหลัง เงินฝากเพิ่มขึ้น 20,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกที่ทรงตัวระดับเดิม ซึ่งก็สอดคล้องกับระดับสินเชื่อที่เติบโตได้ไม่สูงนัก โดยปัจจุบัน เงินฝากรวมของธนาคารอยู่ที่ประมาณ 600,000 ล้านบาท เป็นเงินฝาก CASA สัดส่วน 47% จากสิ้นปีก่อนที่ 40% และคาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ 50%
โดยที่ผ่านมา ธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์บัญชีฟรีเว่อร์ และฟรีเว่อร์ไลท์ สำหรับบัญชีกระแสรายวัน และออมทรัพย์ ซึ่งได้รับผลตอบรับในทางที่ดี และล่าสุด ได้ออกโปรโมชันพิเศษ “ไม่ต้องรอ ไม่ต้องลุ้น รับสิทธิประโยชน์เพิ่มทันที” เมื่อสมัครพร้อมเพย์ คู่กับบัญชีฟรีเว่อร์ วันนี้ ประหยัดทันที 550 บาท (ในเดือนแรก) ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีบัตรเดบิต และประหยัดในเดือนต่อๆ ไปอีก 250-350 บาทต่อเดือน จากโปรโมชันที่ให้โอนต่างธนาคารได้ฟรีเดือนละ 10 ครั้งโดยไม่ต้องรอให้ถึงกำหนดใช้พร้อมเพย์ ในเดือนตุลาคมนี้
“แม้ว่าการระดมเงินฝากในช่วงนี้อาจจะส่วนกระแสอยู่บ้าง แต่เราจะเน้นโตในกลุ่มของ CASA ที่มีต้นทุนต่ำ ทำให้บริหารต้นทุนได้ง่าย จึงไม่น่ามีปัญหาหากสินเชื่อจะเติบโตได้ไม่มาก ซึ่งในส่วนนี้ธนาคารก็จะมีแคมเปญต่างๆ ออกมาสนับสนุน รวมถึงการผูกบัญชีกับพร้อมเพย์ด้วย”
ด้านสินเชื่อรายย่อย (ไม่รวมเช่าซื้อ) ได้แก่ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย ขณะนี้มียอดคงค้างรวมประมาณ 90,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีจะเกินกว่า 100,000 ล้านบาท โดยสินเชื่อบ้านยังคงขยายตัวได้ดีคาดว่าจะเติบโตเป็นสองหลัก ขณะที่สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเอสเอสอีไซส์เล็กยังคงเติบโตในระดับเลขหลักเดียว ส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับ 1% กว่า และจะพยายามดูแลให้อยู่ในระดับดังกล่าวต่อไปได้
นางธีรนุช กล่าวอีกว่า เท่าที่ดูสินเชื่อบ้านจะยังขยายตัวได้ เห็นได้จากโครงการต่างๆที่ยังเพิ่มขึ้น ขณะที่ธนาคารเองก็ได้มีการจัดการระบบภายในให้มีประสิทธิภาพในการอนุมัติสินเชื่อเพิ่มขึ้น ทำให้สินเชื่อบ้านยังขยายตัวได้ดี โดยอัตราการอนุมัติเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากเดิมที่อยู่ในระดับ 30% กว่า