xs
xsm
sm
md
lg

“JWD” มั่นใจครึ่งหลังปี 59 สดใส-เดินหน้าเปิดคลังสินค้าใน AEC ตามเป้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์  หรือ JWD
JWD คาดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัวได้ดี หลังชูแผนลดต้นทุน และปรับกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ลุยเดินหน้าเปิดให้บริการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ภายในท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมขยายการลงทุนคลังสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง ช่วยหนุนผลการดำเนินงานปี 59-61 เติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 7% ขณะที่คาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ถึงจุดต่ำสุด ระบุจากปัจจัยปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายของไทย กระทบธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นมีความต้องการเช่าพื้นที่ลดลง

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด หรือ JWD กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง หลังจากได้ปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มโอกาสการดำเนินธุรกิจ และการขยายโครงการใหม่ ที่พร้อมเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้แก่ผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์พื้นที่ 6,900 ตารางเมตร รองรับการจัดเก็บ และกระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้เช่าพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 50%

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนขยายธุรกิจไปในภูมิภาคอาเซียนตามแผนงานเดิม เพื่อรับโอกาสการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัทศรีไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ LINK ASIA LOGISTICS เพื่อให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนในอาเซียน ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเช่นกัน ขณะเดียวกัน จะเปิดให้บริการคลังสินค้าในประเทศกัมพูชา ขนาดพื้นที่ 4,428 ตารางเมตร และที่เมียนมา จะขยายพื้นที่คลังสินค้าอีก 3,300 ตารางเมตร ส่งผลให้ ณ สิ้นปีนี้จะมีพื้นที่คลังสินค้าโดยรวมที่ตั้งอยู่ในกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่มขึ้นเป็น 9,448 ตารางเมตร

ส่วนไตรมาส 1/60 บริษัทฯ มีแผนเปิดให้บริการคลังสินค้าแห่งใหม่ใน สปป.ลาว มีพื้นที่เพิ่มอีก 3,354 ตารางเมตร จากเดิมที่มีอยู่ 720 ตารางเมตร ส่งผลให้ปี 2560 บริษัทฯ จะมีพื้นที่คลังสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV รวมกว่า 12,800 ตารางเมตร ซึ่งจะส่งผลดีต่อการให้บริการแก่ลูกค้าในภูมิภาคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลดีต่ออัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2559-2561) ที่คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ยต่อปีไม่ต่ำกว่า 7%

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของ 2559 คาดว่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/59 (เมษายน-มิถุนายน) มีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้จากผลกระทบการนำเข้า และส่งออกสินค้าที่ชะลอตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจให้บริการรับฝาก และบริหารสินค้าควบคุมอุณหภูมิแช่เย็น และแช่แข็ง ที่ได้รับผลกระทบจากการทำประมงผิดกฎหมาย และการค้ามนุษย์ ส่งผลให้ไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีกลุ่มที่ 3 (Tier 3) กระทบยอดการส่งออกสินค้าประมงไทย ก่อนได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในปัจจุบัน

ขณะที่ธุรกิจให้บริการรับฝาก และบริหารสินค้าทั่วไป มีการปิดพื้นที่คลังสินค้า 2 แห่งในเขตพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดำเนินการปรับปรุงเป็นศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JCS) นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจเพิ่มขึ้นเพื่อให้บริษัทฯ สามารถสร้างการเติบโต และขยายการลงทุนทั้งใน และต่างประเทศได้ตามแผนที่วางไว้
กำลังโหลดความคิดเห็น