แนะจับตาแรงขายต่างชาติหลังซื้อต่อเนื่อง 17 วัน หวั่นนักลงทุนตระหนกขายตาม

KTBST ดัชนีในวันนี้ที่ 1,497-1,514 จุด แนะจับตาแรงขายต่างชาติหวั่นขายตาม แม้ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก ซึ่งพบว่าการขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศวันแรก หลังจากซื้อสุทธิติดต่อกันมา 17 วัน หากวันนี้ยังมีการขายต่อเนื่องก็จะทำให้นักลงทุนาส่วนใหญ่ขายหุ้นตาม

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,497-1,514 จุด ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาดหุ้นในระหว่างวัน คือ การขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศวันแรก หลังจากซื้อสุทธิติดต่อกันมา 17 วัน หากวันนี้ยังมีการขายต่อเนื่องก็จะทำให้นักลงทุนาส่วนใหญ่ขายหุ้นตาม ขณะที่การรายงานผลประกอบการของบริษัทในตลาดที่ทยอยออกมาอีกระลอกหนึ่ง จะมีผลต่อราคาหุ้นหากกำไรออกมาดี หรือต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์กัน และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นยุโรปก่อนการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นอันเป็นผลจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น 179,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่คาด และราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหลังตัวเลขสต๊อกน้ำมันเบนซิน ซึ่งเป็นตัวที่ฉุดราคาน้ำมันดิบ WTI ในช่วงที่ผ่านมานั้นลดลง มองเป็นผลทางจิตวิทยาที่จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอื่นๆ ในวันนี้

ประเด็นของการสูงขึ้นของราคาน้ำมัน มองว่าการปรับขึ้นยังไม่มั่นคงเท่าใดนัก เพราะการผลิตของผู้ผลิตต่าง ๆ ที่ยังอยู่ในระดับสูง และราคาน้ำมันในฝั่งของตะวันออกกลางนั้นยังปรับตัวลดลงอยู่ ซึ่งจะทำให้ทิศทางราคาหุ้นผู้ผลิตน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันยังมีความไม่แน่นอนสูง แต่จะเป็นบวกต่อกลุ่มปิโตรเคมีที่ใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบอ้างอิงมากกว่า

ทั้งนี้ ปัจจัยในประเทศ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่คงดอกเบี้ย 1.5% และมีมุมมองในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในทางเดียวกับข่าวที่ออกมาก่อนหน้า มองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของไทยที่กำลังดีขึ้น ปัจจัยในประเทศที่จะเป็นตัวถ่วงตลาดก็จะเป็นค่า P/E ของตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก (23 เท่า) และการชะลอการลงทุนของนักลงทุนบางส่วนก่อนทราบผลการลงประชามติ ดังนั้น ภาพของตลาดหุ้นจึงให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่จะเป็นบวกมาถึงตลาดหุ้นไทย แต่แรงซื้อจะมีอย่างจำกัดไม่รุนแรงอย่างช่วงก่อนหน้านี้

กลยุทธ์การลงทุน บล.KTBST มองว่า ไม่ว่า SET Index จะหลุดพ้นจากการปรับฐานหรือไม่ การลงทุนในช่วงต่อจากนี้ควรเน้นปัจจัยระยะสั้นแบบวันต่อวันเป็นหลัก เพราะจะพึ่งกับเงินทุนไหนเข้าของนักลงทุนต่างประเทศคงยาก หลัง Goldman Sache ออกมาบอกว่า ดัชนีราคาหุ้นในตลาดเกิดใหม่ขึ้นมาเกือบเต็มมูลค่าแล้ว

กลยุทธ์การลงทุน บล. KTBST ยังแนะนำให้ลดการถือหุ้นลง และให้ถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 50% หรือเข้าลงทุนในลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้น แบบ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” โดยแนะนำหุ้น BLA, LPN, BA, VGI, SENA