xs
xsm
sm
md
lg

เดลต้าฯ ทุ่มกว่าพันล้าน สร้าง Design Lab ในอินเดีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

บอร์ด “เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ” ไฟเขียวสร้าง Design Lab ด้วยงบกว่า 1 พันล้านบาท พัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ (R&D) ในประเทศอินเดีย คาดเริ่มก่อสร้างต้นปี 60 ขณะไตรมาส 2 ปีนี้กำไร 1,329 ล้านบาท ลดลงจากงวดนี้ปีก่อน ส่วนใหญ่ผลจากการลดลงจากยอดขายของพาวเวอร์ซัปพลายสำหรับระบบเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์เครือข่าย เนื่องจากการลดลงของยอดขายในตลาดสหรัฐฯ

นายอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA เปิดเผยผลที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 25 ก.ค.ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติการก่อสร้างสำนักงานปฏิบัติการด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Lab) มูลค่าประมาณ 32 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,126 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ (R&D) บนที่ดินในเมือง Bangalore ในประเทศอินเดีย ซึ่งได้ลงทุนซื้อที่ดินไว้แล้ว ทั้งนี้ เริ่มก่อสร้างต้นปี 60 และสามารถใช้งานอาคารได้เดือน ก.พ.61

โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้จะมาจากกำไรการดำเนินงานของ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ซึ่งจะทำการลงทุนด้วยการเพิ่มทุนผ่านบริษัทย่อยในสิงคโปร์ Delta Energy Systems (Singapore) Pte.Ltd และเพิ่มทุนต่อไปยัง Delta Electronics India Pvt.Ltd

พร้อมกับอนุมัติให้ซื้อที่ดินในเมือง Tamil Nadu ในประเทศอินเดีย ขนาด 125 เอเคอร์ (ประมาณ 316 ไร่) มูลค่าประมาณ 12.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 432 ล้านบาท โดยบริษัท Delta Electronics India Pvt.Ltd. (บริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่ถือหุ้นโดย Delta Energy Systems (Singapore) Pte. Ltd. 100%) เป็นผู้ซื้อที่ดินเปล่าแห่งนี้จากหน่วยงานรัฐบาลของเมือง Tamil Nadu ในประเทศอินเดีย โดยจะชำระเป็นเงินสด ซึ่งจะทำรายการประมาณช่วงไตรมาส 3 ของปี 59 ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในตลาดอินเดีย โดยบริษัทตั้งโรงงานผลิตในที่ดินดังกล่าว ซึ่งแหล่งเงินทุนที่ใช้จากกำไรจากดำเนินงานของ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จะทำการลงทุนด้วยการเพิ่มทุนผ่านบริษัทย่อยในสิงคโปร์ Delta Energy Systems (Singapore) Pte. Ltd. และเพิ่มทุนต่อไปยัง Delta Electronics India Pvt. Ltd.

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงผลการดำนินงานไตรมาส 2 ปี 59 DELTA มีกำไรสุทธิ 1,328.66 ล้านบาท ลดลงจากงวดนี้ปีก่อนที่ทำไว้ 1,703.27 ล้านบาท ลดลง 374.61 ล้านบาท หรือ 22% โดยกำไรขั้นต้นไตรมาสนี้มี 3,070 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเพียงเล็กน้อย ส่วนค่าใช้จ่ายในการวิจัย และพัฒนาเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากการใช้ในการพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวกับกลุ่มยานยนต์ ขณะที่มียอดขาย 11,273 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากการลดลงของยอดขายในกลุ่มพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะยอดขายที่ลดลงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ MPBG (Mobile Power Supplies) ซึ่งลดลง 13.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนการบริหารสินค้าคงคลังในการขายในอแดปเตอร์สำหรับอุปกรณ์เครื่องมือช่าง ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้รายได้ของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ในไตรมาสนี้ ซึ่งผลกระทบจะเกิดครั้งเดียว

ยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ EPSBG (Embedded power supplies) ก็ลดลง 5.8% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่ลดลงจากยอดขายของพาวเวอร์ซัปพลายสำหรับระบบเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์เครือข่าย เนื่องจากการลดลงของยอดขายในตลาดสหรัฐอเมริกา ขณะที่ยอดขายของกลุ่มผลิตภัณฑ์ FMBG ได้เพิ่มขึ้น 24.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พัดลมอิเล็กทรอนิกส์ (Fan & Thermal management) ซึ่งเป็นอุปกรณ์เพื่อใช้ในการลดอุณหภูมิระบายความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีการออกแบบเฉพาะสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมหลายประเภทได้เพิ่มขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น