xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.จับมือ “ SPCG-โฮมโปร” ชวน ปชช.ติดตั้งโซลาร์รูฟเสรี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลท.จับมือ “ SPCG-โฮมโปร” ชวน ปชช.ติดตั้งโซลาร์รูฟเสรี เปลี่ยนหลังคาบ้านเป็นเครื่องผลิตเงิน ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ช่วยชาติมั่นคงพลังงาน และช่วยลดโลกร้อน “วันดี” ชูไทยเป็นโมเดลโลก อยู่ติดเส้นศูนย์สูตรได้เปรียบ ผลิตไฟฟ้าได้มากที่สุด ด้าน”ผู้บห.โฮมโปร” เผยติดโซลาร์รูฟหลังคาโฮมโปร 11 สาชาช่วยประหยัดเงิน 1.4 แสน/เดือน เดินหน้าติดตั้งอีก 10 สาขาในปีนี้

ที่หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียนอินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกับ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) และบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนา “ลดรายจ่ายฝ่าวิกฤต กับโซลาร์ รูฟ เสรี” เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประชาชน ในการเตรียมตัวผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาบ้าน (โซลาร์รูฟท็อป) แบบเสรี 100 เมกะวัตต์ พร้อมขายให้กับรัฐบาลทันทีที่ประกาศเริ่มโครงการ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนาอย่างคับคั่ง

นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่าเป็นโอกาสดีที่บริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 บริษัทร่วมมือกันจัดงานที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทเอสพีซีจีฯทำธุรกิจโซลาร์ฟาร์มจนประสบความสำเร็จ ส่วนโฮมโปร เป็นบริษัทจดทะเบียนหลักทรัพย์มานาน มีผลประกอบการดีเด่นติดTop50 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งสินค้าที่สองบริษัทนำมาเสนอต่อลูกค้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและทำประโยชน์ให้สูงสุด เราอยากชวนประชาชนให้เปลี่ยนหลังคาบ้าน จากเดิมแค่กันฝนกันแดด มาเป็นทรัพย์สินที่มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถรับแสงจากดวงอาทิตย์ แล้วสร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำให้ใช้ในอนาคต เพราะในอีก 5 ปีการใช้พลังงานฟอสซิลจะลดลงเรื่อยๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และใกล้ตัวพวกเรา

ขณะที่ นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการใหญ่บริษัท เอสพีซีจีฯ กล่าวว่าขณะนี้ประเทศไทยเป็นโมเดลของโลก เพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรจึงสามารถผลิตพลังงานได้มากที่สุด เราต้องเอาความได้เปรียบตรงนี้มาทำประโยชน์มากที่สุด หากใครเข้าร่วมโครงการนี้จะสามารถประหยัดเงินในกระเป๋า และมีรายได้เพิ่มจากการขายไฟให้กับรัฐด้วย ซึ่งนโยบายโซลาร์รูฟเสรี โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้อนุมัติหลักการรับซื้อไฟนำร่องเพื่อทดลอง 100 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 50 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 50 เมกะวัตต์ โดยการไฟฟ้าแต่ละแห่งจะรับซื้อไฟฟ้าจากที่อยู่อาศัย 10 เมกะวัตต์ รายละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ และอาคาร 40 เมกะวัตต์ รายละไม่เกิน 1,000 กิโลวัตต์ ประชาชนสามารถขอผลิตไฟและส่งเข้าร่วมกับการไฟฟ้าได้ทันที

นางวันดีกล่าวว่า บริษัท เอพีซีจีฯใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัทเคียวเซร่าจากญี่ปุ่น เพราะคุณภาพยอดเยี่ยม รับการประกันการใช้งาน 25 ปี และหากมีปัญหาสามารถแคลมได้ ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมเพราะมีจำนวนจำกัดคือไม่เกิน100 เมกกะวัตต์ และต้องเป็นผู้ใช้ไฟประเภทที่1 คือบ้าน โดยสิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมพร้อมคือ สถานที่ต้องมีหลังคาที่เหมาะสมแข็งแรงไม่มีเงา บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน ภาพถ่ายบ้าน 3D และภาพที่เป็นจริง โดยเรามีทีมงานจัดเตรียมให้ลูกค้าครบถ้วนเพื่อสะดวกต่อการยื่นต่อรัฐทันทีที่ประกาศใช้โครงการ คาดว่าจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นเสนอขายได้ในเร็วๆนี้ โดยผู้ผ่านการคัดเลือกที่ลงนามในสัญญาแล้วจะต้องเชื่อมต่อระบบภายในเวลาที่กำหนดแต่ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. 2560

ด้านนายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ โฮมโปรฯ กล่าวว่าปัจจุบันโฮมโปรมีการติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคาเพื่อใช้ไฟฟ้าเอง 11 สาขาที่ขายให้กับรัฐบาล โดยล่าสุดสาขาชัยพฤกษ์ผลิตใช้เองได้ไฟเดือนละ 36,000 กิโลวัตต์ ประหยัดค่าไฟเดือนละ1.4 แสนบาท สามารถคืนทุนได้ภายใน7 ปี ยังไม่คิดที่รัฐบาลช่วยหักค่าใช้จ่าย 2 เท่า โฮมโปรได้ติดตั้งแผงจากหลายบริษัท แล้วเห็นว่าแผงของเคียวเซร่าผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากที่สุดคือ 268.7 กิโลวัตต์ต่อตารางเมตร 1 แผงผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง4.16 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ดีกว่ายี่ห้ออื่น14 เปอร์เซนต์ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเลือกใช้ยี่ห้อนี้ขายให้กับประชาชนโดยเลือกแผงที่อายุยาว และความเชื่อมั่น เป็นหลัก และได้มีโอกาสไปดูการผลิตถึงโรงงานที่ญี่ปุ่น เห็นกระบวนการผลิตแล้วยิ่งมีความเชื่อมั่น และเตรียมติดตั้งเพื่อใช้ไปเองอีก10 สาขาในปีนี้

“ถือเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะให้มีโซลาร์รูฟเสรี และถือโอกาสนี้เชิญชวนประชาชนให้เตรียมตัว เตรียมข้อมูลมาลงชื่อเพื่อเปิดสำรวจจะได้เป็นคนแรกๆที่ไปยื่น ใครทำก่อนประหยัดเงินก่อน และมีโอกาสช่วยโลกร้อนอีกด้วย”นายคุณวุฒิกล่าว
ช่ายอันนี้มั้ย

ตลท.จับมือ “ SPCG-โฮมโปร” ชวน ปชช.ติดตั้งโซลาร์รูฟเสรี เปลี่ยนหลังคาบ้านเป็นเครื่องผลิตเงิน ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ช่วยชาติมั่นคงพลังงาน และช่วยลดโลกร้อน “วันดี” ชูไทยเป็นโมเดลโลก อยู่ติดเส้นศูนย์สูตรได้เปรียบ ผลิตไฟฟ้าได้มากที่สุด ด้าน”ผู้บห.โฮมโปร” เผยติดโซลาร์รูฟหลังคาโฮมโปร 11 สาชาช่วยประหยัดเงิน 1.4 แสน/เดือน เดินหน้าติดตั้งอีก 10 สาขาในปีนี้

ที่หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียนอินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมกับ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) และบริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จัดสัมมนา “ลดรายจ่ายฝ่าวิกฤต กับโซลาร์ รูฟ เสรี” เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประชาชน ในการเตรียมตัวผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาบ้าน (โซลาร์รูฟท็อป) แบบเสรี 100 เมกะวัตต์ พร้อมขายให้กับรัฐบาลทันทีที่ประกาศเริ่มโครงการ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมสัมมนาอย่างคับคั่ง

นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่าเป็นโอกาสดีที่บริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 บริษัทร่วมมือกันจัดงานที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทเอสพีซีจีฯทำธุรกิจโซลาร์ฟาร์มจนประสบความสำเร็จ ส่วนโฮมโปร เป็นบริษัทจดทะเบียนหลักทรัพย์มานาน มีผลประกอบการดีเด่นติดTop50 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ซึ่งสินค้าที่สองบริษัทนำมาเสนอต่อลูกค้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและทำประโยชน์ให้สูงสุด เราอยากชวนประชาชนให้เปลี่ยนหลังคาบ้าน จากเดิมแค่กันฝนกันแดด มาเป็นทรัพย์สินที่มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถรับแสงจากดวงอาทิตย์ แล้วสร้างพลังงานไฟฟ้าเพื่อนำให้ใช้ในอนาคต เพราะในอีก 5 ปีการใช้พลังงานฟอสซิลจะลดลงเรื่อยๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญ และใกล้ตัวพวกเรา

ขณะที่ นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการใหญ่บริษัท เอสพีซีจีฯ กล่าวว่าขณะนี้ประเทศไทยเป็นโมเดลของโลก เพราะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรจึงสามารถผลิตพลังงานได้มากที่สุด เราต้องเอาความได้เปรียบตรงนี้มาทำประโยชน์มากที่สุด หากใครเข้าร่วมโครงการนี้จะสามารถประหยัดเงินในกระเป๋า และมีรายได้เพิ่มจากการขายไฟให้กับรัฐด้วย ซึ่งนโยบายโซลาร์รูฟเสรี โดยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้อนุมัติหลักการรับซื้อไฟนำร่องเพื่อทดลอง 100 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) 50 เมกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 50 เมกะวัตต์ โดยการไฟฟ้าแต่ละแห่งจะรับซื้อไฟฟ้าจากที่อยู่อาศัย 10 เมกะวัตต์ รายละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ และอาคาร 40 เมกะวัตต์ รายละไม่เกิน 1,000 กิโลวัตต์ ประชาชนสามารถขอผลิตไฟและส่งเข้าร่วมกับการไฟฟ้าได้ทันที

นางวันดีกล่าวว่า บริษัท เอพีซีจีฯใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยบริษัทเคียวเซร่าจากญี่ปุ่น เพราะคุณภาพยอดเยี่ยม รับการประกันการใช้งาน 25 ปี และหากมีปัญหาสามารถแคลมได้ ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมเพราะมีจำนวนจำกัดคือไม่เกิน100 เมกกะวัตต์ และต้องเป็นผู้ใช้ไฟประเภทที่1 คือบ้าน โดยสิ่งที่ประชาชนต้องเตรียมพร้อมคือ สถานที่ต้องมีหลังคาที่เหมาะสมแข็งแรงไม่มีเงา บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดิน ภาพถ่ายบ้าน 3D และภาพที่เป็นจริง โดยเรามีทีมงานจัดเตรียมให้ลูกค้าครบถ้วนเพื่อสะดวกต่อการยื่นต่อรัฐทันทีที่ประกาศใช้โครงการ คาดว่าจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นเสนอขายได้ในเร็วๆนี้ โดยผู้ผ่านการคัดเลือกที่ลงนามในสัญญาแล้วจะต้องเชื่อมต่อระบบภายในเวลาที่กำหนดแต่ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค. 2560

ด้านนายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ โฮมโปรฯ กล่าวว่าปัจจุบันโฮมโปรมีการติดตั้งโซลาร์เซลบนหลังคาเพื่อใช้ไฟฟ้าเอง 11 สาขาที่ขายให้กับรัฐบาล โดยล่าสุดสาขาชัยพฤกษ์ผลิตใช้เองได้ไฟเดือนละ 36,000 กิโลวัตต์ ประหยัดค่าไฟเดือนละ1.4 แสนบาท สามารถคืนทุนได้ภายใน7 ปี ยังไม่คิดที่รัฐบาลช่วยหักค่าใช้จ่าย 2 เท่า โฮมโปรได้ติดตั้งแผงจากหลายบริษัท แล้วเห็นว่าแผงของเคียวเซร่าผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากที่สุดคือ 268.7 กิโลวัตต์ต่อตารางเมตร 1 แผงผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง4.16 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ดีกว่ายี่ห้ออื่น14 เปอร์เซนต์ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเลือกใช้ยี่ห้อนี้ขายให้กับประชาชนโดยเลือกแผงที่อายุยาว และความเชื่อมั่น เป็นหลัก และได้มีโอกาสไปดูการผลิตถึงโรงงานที่ญี่ปุ่น เห็นกระบวนการผลิตแล้วยิ่งมีความเชื่อมั่น และเตรียมติดตั้งเพื่อใช้ไปเองอีก10 สาขาในปีนี้

“ถือเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะให้มีโซลาร์รูฟเสรี และถือโอกาสนี้เชิญชวนประชาชนให้เตรียมตัว เตรียมข้อมูลมาลงชื่อเพื่อเปิดสำรวจจะได้เป็นคนแรกๆที่ไปยื่น ใครทำก่อนประหยัดเงินก่อน และมีโอกาสช่วยโลกร้อนอีกด้วย”นายคุณวุฒิกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น