xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึง! สถานทูตไทยในญี่ปุ่น เผยอุทาหรณ์ขบวนการ “คนไทยหลอกคนไทย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เฟซบุ๊คสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ตะลึง! อุทาหรณ์ “3 หนุ่มไทย” ถูกหลอกมาทำงานอย่างผิดกฎหมายในญี่ปุ่น สถานทูตไทยในญี่ปุ่นเผยขบวนการคนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเองยังคงมีอยู่ รับยังมีผู้ตกทุกข์ได้ยากอีกหลายรายที่สถานทูตได้ให้ความช่วยเหลือ รายแรกหนุ่มโคราชทำงานในญี่ปุ่น 6 เดือนก่อนถูกจับ เป็นหนี้นายหน้า 1.5 แสนบาท รายสองเผย “แก๊งนำทัวร์” ตัวการหัวคิวนายหน้าในไทย-ญี่ปุ่น รายสุดท้ายเผยแทบจะบ้าตาย เป็นหนี้หลักแสน หมดปัญญาใช้หนี้หากกลับประเทศ

วันนี้ (1 ก.ค) มีรายงานว่า เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่จดหมายจากผู้ตกทุกข์อีกส่วนหนึ่ง “คนไทยที่เข้ามาทำงานผิดกฎหมาย” เพื่อมาประชาสัมพันธ์เป็นอุทาหรณ์ และถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้หมดไป แต่สถานทูตก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ “คนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเอง” ทั้งนี้ จดหมายดังกล่าวเป็นคำให้การจากแรงงานไทย 3 รายที่ให้ข้อมูลงานที่ทำในประเทศญี่ปุ่น ค่าแรง ค่านายหน้าที่จ่ายที่ประเทศไทย และที่ประทศญี่ปุ่น รวมถึงสาเหตุที่ถูกจับกุม และความรู้สึกในการทำงานในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ผู้ที่จะเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย

ฉบับแรกระบุว่า เป็นชาว จ.นครราชสีมา ทำงานในญี่ปุ่นมากว่า 6 เดือน แต่ไม่เป็นหลักแหล่ง ต้องจ่ายค่าเงินกู้ให้นายหน้าในประเทศไทย จำนวน 150,000 บาท และมาถูกตำรวจญี่ปุ่นจับกุมที่ จ.ไซตามะ ด้วยข้อหาไม่มีวีซ่าทำงานเข้าประทศ จึงขอเตือนพี่น้องชาวไทยระวังโดนหลอกเหมือนตน เพราะไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะงานหายาก

ฉบับที่ 2 ระบุว่า หากจะเข้ามาทำงานในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมายเป็นความคิดที่ผิด ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่จะเข้ามาทำงานได้ง่ายๆ เพราะกฎหมายเข้มงวดมาก อีกอย่างญี่ปุ่นก็อยู่ลำบาก (คาดว่าที่พัก) งานก็หายาก หากจะเข้ามาแบบผิดกฎหมาย และที่สำคัญคนที่จะเป็นนายหน้าหางานให้ ก็มุ่งหวังจะหาประโยชน์ด้วยการ “หักค่าหัว” โดยเฉพาะ พวกนำทัวร์, นายหน้าในไทย, นายหน้าในญี่ปุ่น พอไม่มีงานก็ต้องหาที่นอนไปเรื่อยๆ ท้ายสุดหนังสือฉบับนี้อ้างว่า ที่ญี่ปุ่นมีขบวนการเป็นกลุ่มที่หลอกคนเข้ามากินค่าหัวแล้วไม่มีงานให้ทำ จนถึงปล่อยให้ตกงาน

ฉบับสุดท้ายระบุว่า ตนมาทำงานในญี่ปุ่นก็หวังจะให้ทางบ้านมีฐานะดีขึ้น ทำงานได้แค่ 4 เดือนก็ถูกจับ เขาระบุอีกว่า มาช่วงแรกๆ นายหน้าให้ไปทำงานตัดรถ (ตัดรถยนต์ด้วยเครื่องมือหนัก) ทำได้เพียง 6 วัน ได้เงิน 34,000 เยน และทำงานอยู่มาเป็นเดือน นายหน้าได้นำคนงานไทยเข้ามาใหม่ (ทำงานผิดกฎหมาย) เข้ามาทำงานแทน

เขาระบุในหนังสือว่า “ต่อมาได้เข้ามาทำงานที่อู่ซ่อมรถยนต์ซึ่งอู่แห่งนี้เป็นอู่รับเหมารถยนต์จากบริษัทแห่งหนึ่งมาซ่อม ได้ค่าจ้างซ่อมคันละ 5 ใบ (1 ใบ เท่ากับเงินหมื่นเยนของประเทศญี่ปุ่น หรือประมาณ 3,400 บาท) ก็จะได้มารับค่าจ้างเมื่อถึงสิ้นเดือน ที่อู่ซ่อมรถจะให้ 7 ใบ หรือ 10 ใบต่อเดือน แต่ตนเลือกที่จะส่งค่าจ้างทั้งหมดให้นายหน้าในประเทศไทยเป็นค่าเดินทางทั้งหมด เพราะอยากจะใช้หนี้ให้หมดโดยเร็ว เพราะค่าอาหารและค่าที่พักอู่จะออกให้

มาถึงตอนนี้ ในหนังสือระบุว่า “ต้องจ่ายหนี้ให้นายหน้าในเมืองไทยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน เพราะไปกู้เงิน 170,000 บาท ตอนนี้มีหนี้เหลืออีก 130,000 บาท จนตนกลุ้มจะเป็นบ้าอยู่แล้ว เพราะหากกลับไปประเทศไทยจะเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้ ลูกก็ยังเล็ก มาถูกตำรวจญี่ปุ่นจับก็ไม่ได้ติดต่อพวกเขาเลย “ขอสาบานว่าเป็นความจริงทุกประการ” หนังสือฉบับสุดท้ายที่ให้การจากหนุ่มไทยที่ไปแสวงโชคอย่างผิดกฎหมายในญี่ปุ่นระบุ

เฟซบุ๊กสถานทูตระบุอีกว่า บทความที่สถานทูตได้แบ่งปันไปเมื่อหลายวันก่อนเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ตกทุกข์ได้ยากที่โดนหลอกมาทำงานที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ยังมีอีกผู้ตกทุกข์ได้ยากอีกหลายรายที่สถานทูตได้ให้ความช่วยเหลือ โดยสิ่งหนึ่งที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน คือ “ที่ญี่ปุ่นไม่มีงานสำหรับคนที่คิดหวังมาขุดทอง” และหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้หนึ่งสาเหตุที่เหมือนกันคือ “คนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเอง” ทำให้ต้องไปตกระกำลำบากในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียใจเป็นที่สุด

วันนี้ สถานทูตจึงได้นำจดหมายจากผู้ตกทุกข์อีกส่วนหนึ่งเพื่อมาประชาสัมพันธ์เป็นอุทาหรณ์ และถึงแม้จะไม่ได้ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้หมดไป แต่สถานทูตก็ได้แต่หวังว่าเหตุการณ์ “คนไทยหลอกคนไทยด้วยกันเอง” เช่นนี้จะลดลงได้บ้าง...

*ทั้งนี้ “ใบ” ในที่นี้หมายถึงหมื่นเยนของประเทศญี่ปุ่น หรือประมาณ 3,400 บาท


จดหมายฉบับแรก
จดหมายฉบับสอง
จดหมายฉบับสาม
กำลังโหลดความคิดเห็น