เรียกได้ว่าเป็นดาราเลือดใหม่สังกัดวิก 7 สี ดีกรีมิสทีน ไทยแลนด์ 2011 ที่หลายคนบอกว่า ทางช่องจะปั้นเธอแทน ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ นอกจากนี้ ใบหน้าของเธอยังละม้ายคล้ายนางเอกพันล้านราวกับพี่น้องกันอีกด้วย
เธอคือ มุก-มุกดา นรินทร์รักษ์ สาวนัยน์ตาคม สวยละมุนกลมกล่อม ผิวขาวออร่าของแท้ วัย 19 ปี คนนี้นี่แหละ บอกเลยว่า น่าจับตามอง แม้จะหน้าตาเหมือนลูกครึ่งแต่เธอย้ำว่า
“เป็นคน จ.ระนอง ไทยแท้ค่ะ”
สาวใต้คนสวยลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 5 คน เริ่มเดินเข้าสู่เส้นทางบันเทิงจากเวทีประกวดมิสทีนไลยแลนด์ตั้งแต่อายุ 15 ปี จนได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 1
ผู้จัดการ Lite จะพาคุณมาร่วมพูดคุยกับเธอกัน
พี่ชายเอาไอโฟนล่อ...ประกวดมิสทีนฯ
“พี่ชายมุกคนโตเขาอยากให้มุกเข้าวงการ คือไม่ได้มองว่าน้องสาวสวย เพียงแค่อยากให้น้องกล้าแสดงออกบ้าง จึงดันเข้าวงการ
เขาก็เอาของมาล่อ บอกว่า ถ้าประกวดมิสทีนฯ แล้วได้รางวัลที่ 1 เดี๋ยวจะซื้อไอโฟนให้ ก็หลงฟังคำพี่ชาย”
เธอเล่าว่า พี่ชายประหนึ่งป๋าดัน เป็นคนยื่นใบสมัครให้น้องสาวเองโดยการโทร.ถามอายุ น้ำหนัก ส่วนสูง ส่งสมัครให้ทางอินเตอร์เน็ต โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าสิ่งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล
“คือเราก็ไม่คิดว่าจะได้รางวัล คิดแค่อยากได้ไอโฟนเท่านั้น เพราะมุกก็เห็นว่า คนนั้นก็สวย คนนี้ก็สวย แล้วเราก็ไม่ได้อยู่ในตัวเก็งที่คนเขาชมว่าสวย น่าจะได้เลย (หัวเราะ)
มุกเป็นน้องคนสุดท้อง พี่ชาย 3 คน พี่สาว 1 คน หนูเป็นคนสุดท้องคนที่ 5 ครอบครัวสนับสนุนให้เข้าวงการบันเทิงมาตลอด” โดยเฉพาะคุณแม่ของเธอที่สุดจะแฮปปี้เมื่อลูกเข้าวงการบันเทิง เพราะอยากเห็นลูกออกทีวี บ้าง
นอกจากความสวย ความน่ารัก จะโดดเด่นแล้ว ความสามารถของเธอยังเลอเลิศอีกด้วย เพราะเธอเคยเข้าประกวดเต้นประเภททีม TO BE NUMBER ONE IDOL 2012
ทว่า เธอได้หยิบเอาความสามารถพิเศษในทักษะการเต้นนี้มาเต้นโชว์ในการคัดเลือกบนเวทีมิสทีนไทยแลนด์ เพราะเคยเทกคอร์สเรียนป็อบปิ้งอีกด้วย
“เวลาเครียด มุกจะชอบไปลงกับการเต้นและฟังเพลงค่ะ ทำแล้วรู้สึกดี คือมุกจะมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบรวมตัวกันเต้นอยู่แล้วที่โรงเรียน เป็นเพื่อนๆ รุ่นพี่ที่คลั่งเกาหลีกันแล้วก็หัดเต้นกันเองจนคล่อง มุกชอบไปแจมกับเขา เวลามีคลิปเต้นหรือท่าเต้นดังๆ ออกมาทีหนึ่ง เราก็จะมารวมตัวกันแล้วก็ช่วยกันแกะท่าเต้น นัดกันซ้อม เผื่อมีงานโรงเรียนก็เอาไปแสดงได้ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้เต้นกันสนุกๆ จริงๆ แล้วเคยอัดคลิปเต้นกันเอาไว้เล่นๆ”
เธอเล่าว่า นิสัยพื้นฐานเป็นคนขี้อายมาก ไม่กล้าแสดงออก ไม่ได้ชอบการแสดงออกขนาดนั้น แต่เมื่อได้ตำแหน่งมิสทีนฯ จึงรู้สึกภาคภูมิใจ
“เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ เราจึงต้องพัฒนาตัวเอง เช่น การแสดง ให้มากขึ้น”
สาวใต้ผู้ชื่นชอบทะเล
“เป็นคนใต้ จ.ระนอง แต่พูดใต้ไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครพูดใต้ด้วย พี่ชายมุกทุกคนพูดได้หมดเลยนะ แต่มุกกับพี่ปู (พี่สาวอีกคน) พูดไม่ได้ค่ะ เหมือนพี่ๆ ผู้ชายเขาจะพูดกันเอง แต่พอพูดกับเราสองคน เขาไม่ยอมพูดใต้ให้เราได้ซึมซับเลย พูดกลางอย่างเดียว คุณพ่อคุณแม่ก็พูดภาษากลาง เราเลยพูดใต้ไม่ได้ พอไปโรงเรียน เพื่อนๆ ก็พูดภาษากลางกันหมด แต่ถึงมุกพูดไม่ได้ แต่มุกฟังออกหมดนะ”
ส่วนสถานที่เที่ยวที่เธออยากจะแนะนำใน จ.ระนอง เธอขอแนะนำ “เกาะพยาม”
“มุกชอบไปทะเลค่ะ อย่างเกาะพยามจะน้ำใสมาก “ลองไปบางเบนก็ได้ค่ะ คนระนองทุกคนรู้จักหมดแหละ เวลามุกไปกับพี่กับพ่อแม่ ก็จะชอบไปเขียนทราย ถ่ายรูปเล่น แล้วก็เล่นน้ำกัน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสวย น้ำทะเลที่นี่อาจจะค่อยใสเท่าไหร่ค่ะ ถ้าอยากเห็นทะเลสวยมากๆ จริงๆ ต้องไปเกาะพยาม น้ำใสมาก เป็นที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของระนองเลย”
ชีวิตต่างแดน...ในญี่ปุ่น
หลังจากได้ตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ปี 2011 เธอได้กลับไปอยู่ที่ จ.ระนอง ประมาณ 1 ปี จากนั้นได้มีโอกาสไปแคสฯ เดินแบบ Tokyo Runway และถ่ายนิตยสาร Ray Magazine ทำงานที่ญี่ปุ่นอยู่ 1 ปี เธอเล่าว่าตอนนั้นก็ดีใจที่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่น
“ดีใจแบบเด็กๆค่ะ เพราะตอนนั้นอายุประมาณ 17 ปี เรารู้สึกสุดยอดมากที่จะได้ไปทำงานญี่ปุ่นตอนนั้นเพราะเป็นรันเวย์ของญี่ปุ่น
“ตอนอยู่ญี่ปุ่น มุกจะใช้ชื่อว่า “นรินทร์” (NARIN) เพราะคนญี่ปุ่นเรียกชื่อ “มุก” กันไม่ค่อยได้ เขาจึงอยากให้มีชื่ออื่นที่เรียกง่ายกว่านี้ จึงใช้นามสกุล มาเรียกชื่อ
ไปอยู่ที่นั่นก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้นิดหน่อย แค่ใช้ในการสื่อสารที่จะทำงานในเบื้องต้น ฟังรู้เรื่องเข้าใจ”
เธอยืนยันว่าการได้ไปทำงานญี่ปุ่นถือว่าเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าในการทำงาน เพราะระบบการทำงานเป็นแบบญี่ปุ่น คือ มีวินัยสูง
“เรื่องเวลา การแอกทีฟตัวเองในการทำงาน นางแบบคนนี้ต้องถึงตอนนี้ แต่งหน้าเสร็จเวลานี้ จะเริ่มถ่ายตอนนี้ คือคุณจะต้องทำทุกอย่างให้ทันเวลา เราจึงต้องเรียนรู้ทำการบ้าน ดูนิตยสารเยอะๆ หัดโพสต์ท่า เพื่อเวลาทำงานไปถ่ายแชะๆ แล้วเสร็จเลย
เพราะคนญี่ปุ่นจะทำงานเร็วมาก ช้าไม่ได้ เขาจะไม่โอเค เพราะเขาต้องถ่ายนางแบบคนต่อไป คิวจะต้องเป๊ะๆ คือเขาจะซีเรียสเรื่องเวลามาก
หลักๆ ที่ทำคือถ่ายแบบนิตยสาร ส่วนการโพสต์ท่าถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้ว ต่างกันมาก ที่ญี่ปุ่นเขาจะชอบความเป็นธรรมชาติ เขาบอกว่าโพสต์อะไรก็ได้แต่ขอให้เป็นธรรมชาติที่สุด แนวเผลอๆ แต่คนไทยจะติดโพสต์ท่าแข็งๆ หักข้อขา 45 องศา คนไทยจะมีการบล็อกท่าไว้เลย
ส่วนตัวของมุก คิดว่าการทำงานของคนไทยจะมีความอะลุ่มอล่วยสูง แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่นจะมีระเบียบในระหว่างวันสูงมาก นิดเดียวก็ไม่ได้ จะต้องมีความเคารพกัน ตั้งแต่ทำงานมาในญี่ปุ่น จะไม่เคยเห็นใครมาสาย หรือทำงานช้าเลย ถึงปุ้บนั่งแต่งหน้าทำผม เขาจะเดินมาเรียกเราเอง แบบเดินมาดึงมือเราเลยว่าถึงเวลาต้องแต่งหน้าแล้วนะ
นางแบบญี่ปุ่น เขาไม่จำเป็นต้องสูงมาก สูงประมาณ 160 ขึ้นไปก็สามารถเดินแบบได้ พรีเซนต์สินค้าได้"
แม้จะทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นมา 1 ปี แต่เธอ บอกเลยว่า “ไม่เบื่อ มุกชอบกินปลาดิบ กินได้ทุกวัน” แต่ไม่ว่าจะชอบมากแค่ไหน เมืองไทย ก็ดีที่สุดแล้ว
“แต่มันก็ไม่ใช่บ้านเรา พออยู่ไปนานๆก็รู้สึกว่าอยากทำงานที่เมืองไทยมากกว่า แต่ถามว่าชอบระบบที่ไหน ก็ชอบระบบการทำงานที่ญี่ปุ่นมากกว่า แต่คิดว่าเมืองไทยเหมาะกับเรามากกว่า คิดว่า มาญี่ปุ่นเพื่อมาหาประสบการณ์ จากเป็นเด็กง้องแง้งกลับมาเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ติดนิสัยการทำงานเป็นระบบ มีวินัย ตรงต่อเวลา ไม่ชอบมาสายอยู่แล้ว
ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวจะชอบชิบูย่า เพราะอยู่โตเกียว ชอบแฟชั่นญี่ปุ่น รู้สึกว่าเขามีความเป็นตัวของตัวเองสูง จะแต่งอะไรก็ได้ เขาจะไม่มานั่งแคร์ว่า วันนี้จะต้องแต่งตัวยังไง จะเป็นตัวประหลาดในผู้คนไหม อยากจะแต่งอะไรออกจากบ้านก็ได้โดยไม่แคร์สายตาคนอื่น แต่งแล้วไม่แมตช์กันก็ได้
คนญี่ปุ่นจะให้ความนิยมกับการอ่านนิตยสารแฟชั่นมาก ใครได้ลงนิตยสารจะได้รับความสนใจ บางคนก็เดินเข้ามาชม ว่าน่ารัก”
ปารมี ปี 2016
ประเดิมละครเรื่องแรกกับบท ‘ปารมี’ ในละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ ‘ขมิ้นกับปูน’ เป็นเรื่องราวความเกลียดชังระหว่าง 2 ตระกูล คือ ตระกูลพระยาอภิบาลบำรุงและตระกูลพระวิจิตรศิลปาการ ปารมี อยู่ตระกูลพระยาอภิบาล ลูกสาวคนเล็กของพระนิติรักษ์ธรรมสถิตย์ นิสัยเรียบร้อย อ่อนหวาน รักครอบครัว
ละครฟอร์มยักษ์นี้ที่ว่ากันว่า ช่อง 7 กำลังจะปั้นเธอ ให้เป็นซุปตาร์คนใหม่แทนใหม่ ดาวิกา ที่เพิ่งออกจากช่องไป
“รับบทบาทเป็น ปารมี น้องคนเล็ก อุปนิสัย เป็นผู้หญิงขี้อาย เงียบ เรียบร้อย ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยเหมือนตัวเองเท่าไหร่ เพราะจริงๆแล้วมุกเป็นคนห้าว”
สำหรับสิ่งที่กังวลใจในการรับบทบาท ปารมี เธอบอกว่าอาจจะเป็นเรื่องภาษาพูด
“ด้วยความที่เป็นละครย้อนยุค สมัยรัชกาลที่ 5 จึงมีบางประโยค บางคำก็ไม่ชิน ไม่ค่อยเข้าใจความหมาย จึงทำให้บางประโยคดูไม่ลื่นไหลไปบ้าง”
ในละครเรื่องขมิ้นกับปูนนี้ จะชอบบทบาทของปวีณา และปารมี เพราะเป็นบทตัวเอง ที่ชอบ ปวีณา เพราะจะเป็นสาวแก่นๆ เป็นบทที่ท้าทายเช่นกัน”
ส่วนนักแสดงที่ชื่นชอบนั้น เธอบอกว่า ชอบการแสดงของนักแสดงรุ่นพี่ในช่อง 7 ขวัญ อุษามณี
“พี่เขามีคาแรกเตอร์ เราดูแล้วอิน เวลาพี่เขาร้องไห้ดูแล้วน่าสงสาร ชอบดูผู้หญิงเล่นดรามา”
อย่างไรก็ดี ในส่วนของด้านการแสดงเธอยืนยันว่า จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ และกำลังรอละครเรื่องใหม่อยู่ ส่วนเวลาว่างของเธอนั้นจะชอบดูซีรีย์สืบสวนของฝรั่ง Criminal Mind เป็นเรื่องราวของคดีสืบสวน
เห็นหน้าหวานๆ แต่นิสัยห้าวสุดๆ เพราะเธอชอบดูหนังสืบสวนมาก
ใหม่ ดาวิกา 2 ซุปตาร์คนใหม่!
เมื่อถามว่ารู้สึกยังไง ที่เขาลือกันว่า ช่อง 7 กำลังจะปั้นเธอเป็นซุปตาร์ ใหม่ ดาวิกา ดาราที่เคยสังกัดช่อง 7 คนต่อไป
“ไม่มีใครแทนใครกันได้อยู่แล้วค่ะ และหนูคิดว่า เราหน้าไม่เหมือนกันเลย ถ้าเจอตัวจริงจะรู้ว่าไม่เหมือนกันเลย เป็นแค่การถ่ายภาพบางมุม” เธอพูดอย่างถ่อมเนื้อถ่อมตัว
“เคยเจอพี่ใหม่ ที่ญี่ปุ่น ตอนที่เจอเป็นงานแฟชั่น โตเกียว รันเวย์ มุกไปในนามเอเจนซี่ญี่ปุ่น เห็นพี่ใหม่แล้ว พี่เขาก็สวยดี แต่ไม่ได้พูดคุย หรือเห็นหน้าชัดๆ”
ธุรกิจส่วนตัว! เปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์
นอกจากตอนเด็กๆเธอจะมีความฝันเป็นนางพยาบาลแล้ว ปัจจุบันโตขึ้นก็อยากจะมีธุรกิจส่วนตัว โดยเริ่มจากร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ เพราะต้องใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเป็นสิ่งที่เธอชอบ จึงจับมือเพื่อนสนิท เบสท์ - ภัทรารวีย์ เบ้าสุวรรณ รองอันดับ 2 มิสทีนไทยแลนด์ 2013 เปิดร้าน BENARINBRAND
“เพิ่งเริ่มทำได้ 4 เดือนเองค่ะ ตอนนี้มีเสื้อผ้าอยู่ 5 แบบ นางแบบเสื้อผ้าก็มุกเอง และเพื่อน”
เสื้อผ้าคอลเลกชันแรกที่ออกมาจะมีหลากหลายแนวผสม ใส่ไปทำงาน เที่ยว ช่วยกันดีไซน์ สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ใส่กลางวัน และกลางคืนได้ เป็นได้ทั้งสาวหวาน และสาวเปรี้ยว
“เปิดร้านเสื้อผ้าออนไลน์เล็กๆ ขายผ่านอินสตาแกรม BENARINBRAND ที่มุกทำเพราะเวลามีเวลาว่างกับเพื่อน เราไม่รู้จะทำอะไรกัน ก็เลยคุยกัน ว่าลองทำกันดูไหม คิดยังไม่ได้จริงจัง 100% ถ้าอนาคตดีกว่านี้ ก็อยากทำให้เต็มตัวกว่านี้ หุ้นกับเพื่อนมิสทีนฯ
ด้วยความที่มุกกับเพื่อนว่างไม่ค่อยตรงกัน จึงทำให้การออกคอลเลกชันเสื้อผ้าในแต่ละครั้งนานหน่อย เพราะเราจะออกแบบเสื้อผ้าเอง
จุดเริ่มต้นคือ รู้สึกว่าบางครั้งเวลาเราไปร้านเสื้อผ้า แล้วเราไม่ได้ดั่งใจ บางทีมันใหญ่ไป ตรงนี้หลวม ตรงนั้นคับ หาซื้อเสื้อผ้าใส่ยาก เพราะตอนนี้วัยรุ่นหุ่นผอมแบบมุกเยอะมาก
แต่พยายามทำให้ใส่ได้ทุกไซส์ แต่มีไม่ถึงไซส์ L สไตล์เสื้อผ้าจะเป็นแบบ Everday Look ใส่ทำงานได้ ไปงานได้ เที่ยวได้ สามารถเซ็กซี่ หวาน เป็นทางการก็ได้”
นอกจากดีไซน์เสื้อผ้าเองแล้ว เธอยังไปเดินพาหุรัดเลือกซื้อผ้าเองอีกด้วย
“ไปเดินซื้อผ้าเอง หาช่างตัดเสื้อผ้า ด้วยความชอบจึงรู้สึกสนุกค่ะ”
สำหรับคอลเลกชันนี้เธฮบอกว่าเสื้อสายเดี่ยวสีดำเว้าหลังตัววี ฟีดแบ็กดีเวอร์
“ขายดีมาก ขายหมดก่อนเพื่อนเลย เพราะเป็นแนวเซ็กซี่ ส่วนราคาไม่แพงมาก ประมาณ 1,290 บาท พยายามไม่ให้ราคาสูงเกินไป หรือต่ำเกินไป เพราะค่อนข้างซีเรียสเรื่องตัดเย็บ จึงต้องทำออกมาให้ดี คัทติ้งเนี้ยบ
ตอนนี้เพื่อนที่ทำด้วยกันจะไปเรียนที่เกาหลี 1 เดือน จึงหยุดไว้ก่อน ถ้าว่างก็ทำคอลเลกชันอีกแน่นอน”
สำหรับใครที่อยากไปดูเสื้อผ้าที่ร้าน เธอบอกว่า “ตอนนี้ยังไม่มีหน้าร้าน เพราะไม่มีเวลาขนาดนั้นที่จะไปเฝ้าร้านทุกวัน”
“มะเขือเทศ” สูตรลับผิวเด้ง “กินทั้งวัน แต่น้อยๆ” หุ่นเป๊ะ!
ปิดท้ายกับเรื่องเคล็ดลับความงาม เพราะผิวพรรณของเธอเปล่งปลั่งขาวออร่าสุดฤทธิ์ เธอบอกว่า “กินมะเขือเทศ” นั่นเอง
ตอนเกิดมา ตัวขาว แม่ก็เลยให้ชื่อ “มุก”
“ออกกำลังกาย เช่น ต่อยมวย เพราะทำให้เบิร์นเร็วมากสำหรับผู้หญิง ชอบกินมะเขือเทศมากตั้งแต่ ม.1 บางทีกินแต่มะเขือเทศ ไม่กินอย่างอื่นเลย กินได้ทั้งวัน ไม่อ้วนด้วย เห็นไม่ได้ต้องซื้อตลอด แม้มุกเป็นคนขาวอยู่แล้ว แต่มะเขือเทศทำให้รู้สึกว่าผิวดีขึ้น เวลาออกแดดจะดูขาวๆ ผิวฟื้นฟูเร็วเวลาโดนแดดแรงๆ”
นอกจากผิวพรรณจะขาวผ่องแล้วรูปร่างของเธอยังบอบบางผอมเพรียวอีกด้วย เคล็ดลับคือกินทั้งวัน!
“เริ่มดูแลตัวเองจากการไม่กินยา(อาหารเสริมลดความอ้วน-ขาว) ก่อน เพราะมีผลข้างเคียง และมีคำพูดเกินจริง ไม่น่าลอง เสี่ยงไตพัง อย่า อยากขาวก็ซื้อยามากิน ยาพวกนี้อาจจะมีฟีดแบ็กกลับมาที่น่ากลัว
อยากให้ดู อย.ว่าได้รับการรับรองหรือไม่ หากอยากขาว วีธีที่ดีสุดคือหลบแดด ทาครีมกันแดด กินผักผลไม้ ที่ช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น
“เป็นคนทีแพ้เลเซอร์ การทำทรีทเมนต์บนใบหน้า แพ้ง่ายมาก ช้ำง่าย คือบางทีทำงานมาเยอะก็อยากผ่อนคลายทำทรีตเมนต์แต่พอทำก็แพ้ สิวขึ้น ตอนนี้เลยทาครีมบำรุงเอง” เธอเล่าว่า แพ้ง่ายมากจนต้องบำรุงผิวพรรณด้วยตัวเอง
สำหรับรูปร่างผอมบางนั้น เธอมีเคล็ดลับคือ “การกินทั้งวัน” แต่กินทีละน้อยๆ
“เคยได้ยินมาว่าเป็นวิธีการกินที่ถูก กินน้อยให้เผาผลาญได้ทัน มุกจะติดนิสัยการกินแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ก็เริ่มรู้จักดูแลตัวเองมาตั้งแต่อายุ 15 ปี" เธอ แนะนำเคล็ดลับหุ่นเป๊ะปิดท้าย
ประวัติ
ชื่อ : มุกดา นรินทร์รักษ์
ชื่อเล่น : มุก
เกิด : 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2539
อายุ : 19 ปี
ส่วนสูง : 165 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 43 กิโลกรัม
การศึกษา : ระดับมัธยม โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จ.ระนอง
ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ : มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารเชิงกลยุทธ์ ปีที่ 1
ความสามารถพิเศษ : เต้น B-Boy, เต้น Popping, การแสดง, เปียโน, วาดภาพ
ผลงาน : รางวัลชนะเลิศ Miss Teen Thailand 2011
TO BE NUMBER ONE IDOL 2012 Dance Team
Tokyo Runway 2013
Ray Magazine Model (Tokyo, Japan) 2013 - 2014
โดยผู้จัดการ Lite
เรื่อง สวิชญา ชมพูพัชร
ขอขอบคุณภาพ: อินสตาแกรม narinnarinrak
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754