xs
xsm
sm
md
lg

มาสเตอร์คูล ปรับเป้าโตเพิ่มอีก 10%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

มาสเตอร์คูล ปรับเป้าผลงานเพิ่มจาก 40% เป็น 50% และกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นมาที่ 10% ของรายได้ หลังผลงานไตรมาสแรกรายได้เติบโต 61% เมื่อเทียบกับปีก่อน ผลดีจากอุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้สินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย และบริษัทมีแผนขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL เปิดเผยว่า บริษัทปรับแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงผลจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผลประกอบการดีขึ้นกว่าประมาณการ จึงได้มีการปรับเป้าหมายรายได้ปี 59 ใหม่ จากเดิมคาดการณ์ช่วงต้นปีจะมีอัตราเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้น 40% เป็นเพิ่มขึ้น 50% จากรายได้ปี 58 และปรับประมาณการอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นมาอยู่ที่ 10% ของรายได้

“รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดจำหน่ายพัดลมไอเย็นทั้งภายใน และภายนอกประเทศของบริษัทเติบโตกว่าที่เคยประมาณการไว้ โดยผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรก บริษัทมีรายได้รวม 228 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตถึง 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน” นายนพชัย กล่าว

โดยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากเป้าหมายที่วางไว้ เป็นผลมาจากอุณหภูมิที่ร้อนจัดทำให้สินค้าของบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทุกกลุ่มเป้าหมาย และบริษัทมีแผนขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้างโมเดิร์นเทรด เทสโก้-โลตัส ที่มีการวางจำหน่ายสินค้าใน 42 สาขาทั่วประเทศ และการจับมือกับพันธมิตรใหม่ ได้แก่ บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) เพื่อการกระจายสินค้า และให้ความรู้แก่ผู้บริโภค รวมไปถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายภายในองค์กรที่ดีขึ้น

สำหรับแผนการลงทุนจากนี้ถึงปี 60 บริษัทวางงบลงทุนในด้านของการขยายช่องทางการตลาด การสต๊อกสินค้า เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเติบโตอยู่ที่ 150 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งใช้ในการวิจัย และพัฒนาสินค้าใหม่ที่จะออกสู่ตลาด 30 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า ภายใน 3-5 ปี สินค้าพัดลมไอเย็นน่าจะมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 10%-20% คิดเป็น 3,000-6,000 ล้านบาท ของสินค้ากลุ่มเครื่องทำความเย็นทั้งแอร์ และพัดลม ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท ปัจจุบัน พัดลมไอเย็นมียอดขายรวมเพียงกว่า 1,000 ล้านบาท ดังนั้น สินค้าพัดลมไอเย็นยังมีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องช่วง 3-5 ปีจากนี้

นายนพชัย กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้บริษัทมีแคมเปญส่งเสริมการขาย “เมืองไทยหน้าไหนก็ร้อน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์กระตุ้นยอดขายภายในประเทศในช่วงนี้ และมีแผนขยายตลาดลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจ อีกทั้งจะเน้นการทำตลาดส่งออก เนื่องจากเริ่มมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดเอเชียตอนบน ได้แก่ เวียดนาม และญี่ปุ่น ส่วนตลาดซีกโลกใต้ กลุ่มประเทศแอฟริกา ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย อเมริกาใต้ นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในช่วงฤดูร้อนตรงข้ามกับสภาพอากาศฝั่งเอเชีย ทำให้เริ่มมียอดคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาในบริษัทอย่างต่อเนื่องแล้ว ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้จากตลาดส่งออกมากกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดที่ทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่าย 45 ประเทศทั่วโลก และยังปรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด คาดว่าจะสามารถเริ่มเติบโตได้ดี เสริมรายได้ และลดผลกระทบจากฤดูกาลขายสินค้าพัดลมไอเย็นของบริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น