ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ เดินหน้าสร้างผลงานรายได้-กำไรครึ่งปีหลัง 2559 ดีกว่าครึ่งปีแรก ผู้บริหารเชื่อธุรกิจเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ จากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 2 โครงการ ขนาด 250 กิโลวัตต์ช่วงต้น มิ.ย. แถมลุยซื้อโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 8 โครงการกำลังการผลิตรวม 1,000 กิโลวัตต์ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มเป็น 15% ภายในปี 61
นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานตั้งแต่ไตรมาส 2/59 ว่า จะกลับมาฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 1/59 อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจการเกษตร แนวโน้มยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์ อย่างเช่น อาหารกุ้ง และอาหารปลาจะเริ่มมีการเติบโตขึ้น หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ผู้เลี้ยงสัตว์น้ำประสบปัญหาภัยแล้ง แต่เชื่อว่า หลังจากนี้ไปที่เข้าสู่ช่วงหน้าฝนผู้เลี้ยงสัตว์น้ำจะกลับมาเลี้ยงสัตว์ตามปกติ ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มมีรายได้จากธุรกิจพลังงานเข้ามา ซึ่งทำให้ผลการดำเนินงานทั้งรายได้ กำไร ในครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก 2559 ส่วนความคืบหน้าการเข้าลงทุนในกิจการด้านพลังงาน โดยลงทุนเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท พีพีเอสเอ็น จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พื้นพิภพ (Geothermal) 4 โครงการ
โดยโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเฟสแรก 2 โครงการ ขนาดกำลังผลิต 250 กิโลวัตต์ ได้เดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์แล้ว หลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 4 โครงการ รวมเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 500 กิโลวัตต์ (125 กิโลวัตต์ เทียบเท่า 1 เมกะวัตต์ ในพลังงานแสงอาทิตย์) ที่เมืองเบบปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนอีก 2 โครงการ คาดว่ายังคงเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยจะวางแผงติดตั้งภายในเดือนกรกฏาคม 2559 และคาดว่าจะจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนกันยายน 2559
สำหรับแผนการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าในระยะ 3-5 ปี (2559-2563) บริษัทฯ มีแผนที่จะขยาย Geothermal ถึง 30 โครงการ (หรือเทียบเท่า 30 เมกะวัตต์ ในพลังงานแสงอาทิตย์) คาดว่าจะสร้างรายได้เกิน 300 ล้านบาทต่อปี โดยล่าสุด คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้ลงทุนในโครงการไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศญี่ปุ่น โดยการซื้อบริษัท ซูโม่ พาวเวอร์ ที่มีสัญญาซื้อขายโครงการไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ 8 โครงการ กับบริษัท เซโตอูจิ เนเชอรัล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ขนาดกำลังการผลิตรวม 1,000 กิโลวัตต์ มูลค่ารวมของทั้งโครงการประมาณ 798 ล้านบาท หรือประมาณ 2,396 ล้านเยน คาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายโรงไฟฟ้าได้ประมาณเดือน เม.ย.2560 เป็นต้นไป
สำหรับเงินลงทุนจะมาจากเงินกู้สถาบันการเงินในไทย และญี่ปุ่น เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้ออกหุ้นกู้ไปแล้วมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท อายุ 2 ปี และคาดว่า ในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ บริษัทจะออกหุ้นกู้ชุดใหม่อีกไม่เกิน 600 ล้านบาท อายุ 2 ปี เพื่อใช้ในการลงทุนซื้อธุรกิจพลังงานในญี่ปุ่น ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานเพิ่มเป็น 15% ภายในปี 61 หลังโรงไฟฟ้าเริ่ม COD ได้ครบทั้งหมด จากปีนี้ที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าจะมีเพียง 2-3% ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า โรงไฟฟ้าที่เหลืออีก 26 ยูนิต จะ COD ครบทั้งหมดภายในปี 60
“TLUXE เป็นผู้ประกอบการไทยรายแรกที่ลงทุนในธุรกิจพลังงานประเภทพลังงานจากใต้พื้นพิภพ (Geothermal) เราคาดว่า จะต่อยอดในธุรกิจ สร้างรายได้อย่างมั่นคง และสม่ำเสมอ ประเมินรายได้ปีละ 50 ล้านบาท และเงินลงทุน 400 ล้านบาท เรามีเพียงพอ และพร้อมสำหรับการลงทุนครั้งนี้ ทั้งนี้ หากบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์ (COD) เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะขยาย Geothermal ถึง 30 โครงการ (หรือเทียบเท่า 30 เมกะวัตต์ ในพลังงานแสงอาทิตย์) คาดว่าจะสร้างรายได้เกิน 300 ล้านบาทต่อปี” นายกิติพัฒน์กล่าว