xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่” แปรเป็นมหาชนเตรียมเข้า mai

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่” ผู้บริหารธุรกิจพลังงานในเครือ “เชาว์ สตีล อินดัสทรี้” แปรสภาพเป็นมหาชน พร้อมเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต.เพื่อเข้าซื้อขายในตลาด mai หวังระดมทุนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งใน และต่างประเทศ หลังผู้ถือหุ้นอนุมัติกระจายหุ้น 380 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท จัดสรร 95 ล้านหุ้นให้ผู้ถือหุ้น CHOW ส่วนที่เหลือ 285 ล้านหุ้น ขายประชาชนทั่วไป

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงาน ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งใน และต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจพลังงานทดแทน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจในอนาคต

สำหรับ เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ ประกอบธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ได้เริ่มลงทุนในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ปัจจุบัน มีโครงการที่ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย จำนวน 33 เมกะวัตต์ ลงทุนร่วมกันพันธมิตร จำนวน 40 เมกะวัตต์ และพัฒนาเพื่อจำหน่ายให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจอีก 57 เมกะวัตต์ ส่วนตลาดในประเทศ เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ ได้มุ่งขยายฐานธุรกิจผ่านโครงการผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยแบ่งโครงการออกเป็น 3 ขนาด คือ ขนาดเล็กประเภทที่อยู่อาศัย ขนาดกลางประเภทอาคารพาณิชย์ และอาคารสำนักงาน และขนาดใหญ่ในโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจุบัน ติดตั้งแล้ว จำนวน 7 เมกะวัตต์ จึงทำให้ เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์อย่างครบวงจร ทั้ง Solar Farm และ Solar Rooftop และมีนโยบายจะขยายการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ มีทุนจดทะเบียน 570,000,000 บาท และอยู่ระหว่างการดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 760,000,000 บาท ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 380,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และเตรียมจัดสรรหุ้น จำนวน 95,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) และจัดสรรหุ้น จำนวน 285,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และหุ้นที่เหลือจากการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) หลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

สำหรับผลประกอบการในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้เติบโตอย่างรวดเร็ว และแข็งแกร่ง เพิ่มจาก 93.18 ล้านบาทในปี 2557 มาเป็น 1,072.58 ในปี 2558 เติบโตขึ้น 979.40 ล้านบาท หรือร้อยละ 1,051.08 โดยรายได้ในปี 2558 มาจากการขายไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 78 ล้านบาท จากกำลังการผลิต 8.92 เมกะวัตต์ รายได้จากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 687 ล้านบาท รายได้จากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 270 ล้านบาท และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ในขณะที่ผลประกอบการพลิกจากขาดทุน 31.88 ล้านบาท ในปี 2557 มาเป็นมีกำไร 51.63 ลบ. หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 261.95 โดยในปี 2559 จะเป็นปีที่ เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ รับรู้รายได้จากการขายไฟไม่น้อยกว่า 80 เมกะวัตต์ และรายได้จากงานก่อสร้าง และพัฒนาโครงการอื่นๆ อย่างเต็มตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น