“ซีไอเอ็มบีไทย” ปรับโครงสร้างสายงานธุรกิจเอสเอ็มอีเสร็จ เผยกลยุทธ์นำผู้ประกอบการขยายตลาดสู่อาเซียนที่ธนาคารมีเครือข่ายแข็งแกร่ง ไม่เน้นขยายสินเชื่อ-มาร์เกตแชร์เป็นหลัก เผย 4 เดือนแรกปล่อยกู้เพิ่มได้ประมาณ 4 พันล้าน แต่ไตรมาส 2 แนวโน้มยังชะลอ พร้อมคุม NPL ไม่เกิน 3%
นางวีรมน นิยมไทย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพาณิชย์ธนกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไว้ที่ระดับ 6-8% จากยอดสินเชื่อคงค้างปี 2559 ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ปล่อยสินเชื่อได้เกือบ 4,000 ล้านบาท ซึ่งประเมินจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวก็คาดว่าแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 2 จะเติบโตได้ต่ำกว่าในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีโอกาสเติบโตจากปัจจัยบวกด้านโครงการลงทุนของภาครัฐที่กำลังเดินหน้า เสริมด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ปีที่แล้วใครๆ ก็ว่ายาก แต่ปีนี้ยิ่งยาก และท้าทายกว่า เราจึงต้องระมัดระวังกันต่อไป ขณะเดียวกัน ก็ต้องพยายามที่จะดูแลเก่าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที และพยายามที่จะบริหารจัดการเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับที่ตั้งไว้ 3% ให้ได้”
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารเพิ่งปรับโครงสร้างในสายงานพาณิชย์ธนกิจที่ดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเสร็จสิ้น โดยได้มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการได้ตรงจุดมากขึ้น เพราะเชื่อว่าความต้องการของลูกค้าแต่ละระดับจะไม่เหมือนกันในบางจุด โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มรายเล็ก ยอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี กลุ่มรายกลาง ยอดขาย 100-1,000 ล้านบาทต่อปี และกลุ่มรายใหญ่ ยอดขาด 1,000-3,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับกลยุทธ์ของธนาคารภายหลังจากปรับโครงสร้างสายงานแล้วก็จะมุ่งเดินหน้าจัดทำกลยุทธ์พาลูกค้าเอสเอ็มอีในการไปเปิดตลาดอาเซียน โดยประสานกับเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบีในประเทศต่างๆ อย่างใกล้ชิด เริ่มตั้งแต่กลยุทธ์ในภาพใหญ่ การแบ่งปันฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไปจนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าแต่ละกลุ่ม
“การขยายสินเชื่อเอสเอ็มอีในปีนี้ก็ถือว่าพอไปได้ก็จะเป็นส่วนของเอสเอ็มอีรายใหญ่ และรายกลางเป็นส่วนใหญ่ แต่เราไม่ใช่ธนาคารขนาดใหญ่ ไม่ได้มุ่งไปที่การขยายสินเชื่อ หรือการทำมาร์เกตแชร์สูงๆ แต่จะเน้นในการนำพาผู้ประกอบไปยังตลาดต่างประเทศด้วยความชำนาญ และเครือข่ายที่ธนาคารมีเป็นกลยุทธ์สำคัญ ซึ่งคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจน”
นางวีรมน นิยมไทย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพาณิชย์ธนกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า จากที่ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไว้ที่ระดับ 6-8% จากยอดสินเชื่อคงค้างปี 2559 ที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยช่วง 4 เดือนแรกที่ผ่านมา ปล่อยสินเชื่อได้เกือบ 4,000 ล้านบาท ซึ่งประเมินจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวก็คาดว่าแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 2 จะเติบโตได้ต่ำกว่าในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีโอกาสเติบโตจากปัจจัยบวกด้านโครงการลงทุนของภาครัฐที่กำลังเดินหน้า เสริมด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
“ปีที่แล้วใครๆ ก็ว่ายาก แต่ปีนี้ยิ่งยาก และท้าทายกว่า เราจึงต้องระมัดระวังกันต่อไป ขณะเดียวกัน ก็ต้องพยายามที่จะดูแลเก่าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที และพยายามที่จะบริหารจัดการเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับที่ตั้งไว้ 3% ให้ได้”
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา ธนาคารเพิ่งปรับโครงสร้างในสายงานพาณิชย์ธนกิจที่ดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเสร็จสิ้น โดยได้มีการแบ่งกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการได้ตรงจุดมากขึ้น เพราะเชื่อว่าความต้องการของลูกค้าแต่ละระดับจะไม่เหมือนกันในบางจุด โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มได้แก่ กลุ่มรายเล็ก ยอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี กลุ่มรายกลาง ยอดขาย 100-1,000 ล้านบาทต่อปี และกลุ่มรายใหญ่ ยอดขาด 1,000-3,000 ล้านบาทต่อปี
สำหรับกลยุทธ์ของธนาคารภายหลังจากปรับโครงสร้างสายงานแล้วก็จะมุ่งเดินหน้าจัดทำกลยุทธ์พาลูกค้าเอสเอ็มอีในการไปเปิดตลาดอาเซียน โดยประสานกับเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบีในประเทศต่างๆ อย่างใกล้ชิด เริ่มตั้งแต่กลยุทธ์ในภาพใหญ่ การแบ่งปันฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไปจนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าแต่ละกลุ่ม
“การขยายสินเชื่อเอสเอ็มอีในปีนี้ก็ถือว่าพอไปได้ก็จะเป็นส่วนของเอสเอ็มอีรายใหญ่ และรายกลางเป็นส่วนใหญ่ แต่เราไม่ใช่ธนาคารขนาดใหญ่ ไม่ได้มุ่งไปที่การขยายสินเชื่อ หรือการทำมาร์เกตแชร์สูงๆ แต่จะเน้นในการนำพาผู้ประกอบไปยังตลาดต่างประเทศด้วยความชำนาญ และเครือข่ายที่ธนาคารมีเป็นกลยุทธ์สำคัญ ซึ่งคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มเห็นภาพชัดเจน”
