xs
xsm
sm
md
lg

CENTEL เผยอยู่ระหว่างศึกษา M&A ทั้งในและต่างประเทศ 1-2 ดีลในปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

CENTEL คาดผลดำเนินงานปีนี้ทำนิวไฮ เผยอยู่ระหว่างศึกษา M&A ธุรกิจโรงแรมทั้งใน และต่างประเทศ 1-2 ดีลในปีนี้

นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะทำสถิติสูงสุดจากในปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิระดับ 1.68 พันล้านบาท เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด อย่างเช่น การจดทะเบียนตั้งสำนักงานในต่างประเทศ ทำให้ค่าใช้จ่ายของพนักงานในต่างประเทศลดลงราว 10 ล้านบาท และควบคุมต้นทุนด้านการตลาด โดยเฉพาะธุรกิจอาหาร เพื่อทำให้อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA Margin) ในปีนี้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 13% ขณะที่รายได้ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าอยู่ที่ 2.05 หมื่นล้านบาท

โดยธุรกิจโรงแรมของบริษัทยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอัตราการเข้าพักยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับที่ดีมากกว่า 80% ในแต่ละไตรมาส แม้ว่าไตรมาส 2/59 อัตราการเข้าพักของบริษัทจะอยู่ที่ 83% ลดลงจาก 87% ในไตรมาส 1/59 เนื่องจากในไตรมาส 2 เป็นช่วงโลว์ซีซันของโรงแรมในต่างจังหวัดในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. โดยเฉพาะโรงแรมในภูเก็ต และพัทยา ที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในส่วนของอัตราเฉลี่ยรายได้ต่อจำนวนห้องพัก (RevPar) นั้นมีแนวโน้มดีขึ้นจากไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 1.5% โดยในช่วงเดือน เม.ย. RevPar อยู่ที่ 1.4% และเดือน พ.ค.อยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นผลมาจากโรงแรมในกรุงเทพฯ มีการเข้าพักของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประชุมงานเพิ่มมากขึ้น ทำให้โรงแรมสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย ซึ่งเดือน พ.ค.อัตราราคาห้องพักเฉลี่ย (ARR) ของบริษัทกลับมาเป็นบวกที่ 1% จากเดือน เม.ย.ที่ติดลบ 1.6%

ขณะที่บริษัทยังคงเป้าหมายธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักในปีนี้อยู่ที่ 81-82% มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเติบโต 4-5% ซึ่งเติบโตต่ำกว่าปีก่อนที่ 7% เนื่องจากฐานรายได้ของธุรกิจโรงแรมใหญ่ขึ้น และมีราคาค่าห้องพักเติบโต 4-5% อีกทั้งมีแผนใช้เงินลงทุนในธุรกิจโรงแรม 600 ล้านบาท เพื่อปรับปรุง และก่อสร้างโรมแรมในปัจจุบัน และโครงการในอนาคต

นอกจากนี้ ในส่วนของโรงแรมในมัลดีฟส์ ตั้งงบไว้ที่ 100 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับรีโนเวตห้องพักโรงแรมในบางส่วนในช่วงโลว์ซีซันในไตรมาส 2/59 และจะมีกำหนดเปิดให้บริการอีกในช่วงไตรมาส 4/59 ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าในสิ้นปีนี้มีจำนวนโรงแรมทั้ง 40 โรงแรม มีจำนวนห้องพัก 7,720 ห้อง และตั้งเป้าระยะยาวในปี 63 มีจำนวนโรงแรมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70 โรงแรม และมีจำนวนห้องพักไม่ต่ำกว่า 15,000 ห้อง

ด้าน น.ส.นันทนา เตชะบุญประทาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน CENTEL เปิดเผยว่า สำหรับธุรกิจอาหารปีนี้ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท และมี EBITDA Margin ไม่ต่ำกว่า 13% โดยจะมาจากการเติบโตสาขาเดิม (SSSG) ราว 1% โดยปัจจุบัน SSSG ถือว่าปรับตัวเป็นบวกราว 0.7% หลังไตรมาส 1/59 ติดลบที่ 0.01% ขณะที่ยอดขายของสาขาทั้งหมด (TSS) ปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 5-6% จากปัจจุบันเติบโตอยู่ที่ 4.8% ทั้งนี้ แบรนด์ที่เป็นปัจจัยหลักสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอาหาร คือ KFC, อานตี้ แอนส์, โอโตยะ และมิสเตอร์ โดนัท

ส่วนปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนสำหรับธุรกิจอาหารราว 600 ล้านบาท โดยจะใช้สำหรับการปรับปรุงสาขาเดิม รวมไปถึงการเปิดสาขาใหม่ ซึ่งปีนี้บริษัทตั้งเป้าเปิด 58 สาขา แต่บริษัทก็จะมีการปิดสาขาเดิมที่ไม่สร้างกำไรด้วย ทำให้สิ้นปีคาดว่าจะมีสาขาทั้งสิ้น 830 สาขา จากปัจจุบัน 800 สาขา หรือมีแบรนด์อาหาร จำนวน 12 แบรนด์ นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมงบสำหรับการเข้าซื้อกิจการอาหาร และร่วมทุนกิจการอาหารทั้งในประเทศ และต่างประเทศกว่า 500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี จากการขยายธุรกิจบริษัทตั้งเป้าว่าปี 63 จะมีสาขามากกว่า 1 พันสาขา

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าซื้อกิจการ และร่วมทุน (M&A) โรงแรมทั้งใน และต่างประเทศร่วมกับพันธมิตร โดยเป็นโรงแรมที่อยู่ในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ซึ่งปัจจุบัน มีดีลที่ศึกษาทั้งหมด 1-2 ดีล ได้แก่ โรงแรมในภูเก็ต และหัวเมืองท่องเที่ยวอีก 1 แห่ง โดยรูปแบบการลงทุนจะเป็นการร่วมกับพันธมิตร โดยหากเป็นทำเลที่บริษัทคุ้นเคยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด หรือลงทุนในสัดส่วน 75-80% แต่หากเป็นทำเลที่บริษัทไม่คุ้นเคยจะลงทุนในสัดส่วน 20-25% และจะมีการทำสัญญาเรื่องการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นกับพันธมิตรไว้ล่วงหน้า หากพันธมิตรต้องการขายหุ้นออกในภายหลังจะต้องเสนอขายให้แก่บริษัทเป็นลำดับแรก อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่ได้ข้อสรุปแน่นอนได้ เนื่องจากดีลซื้อกิจการแต่ละดีลใช้ระยะเวลาการศึกษาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น