เอ็มดีแบงก์กสิกรไทย ยอมรับ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ มีผลทำให้ต้นทุนธนาคารในการบริหารทรัพย์ NPA สูงขึ้น ส่วนผลดีจะเป็นตัวกระตุ้นให้บรรดาเศรษฐีนำสินทรัพย์ที่ถือครองไว้มาบริการจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์ เพราะจะทำให้ต้นทุนการจัดการสินทรัพย์สูงขึ้น ดังนั้น จึงเป็นผลดีให้ธุรกิจการวางแผนบริหารทรัพย์สินได้รับความนิยม และมีผู้ใช้บริการมากขึ้น
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะกระทบต่อสินทรัพย์รอการขาย หรือ NPA เช่น ที่ดินและส่งปลูกสร้างที่ธนาคารถือครองอยู่ โดยยอมรับว่าจะกระทบต่อธนาคารบัาง แต่ไม่มากนัก เนื่องจากสินทรัพย์ที่ธนาคารถืออยู่มีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท จำนวนไม่มาก อย่างไรก็ตาม ธนาคารแต่ละแห่งต้องมีการปรับตัว โดยคำนวณว่า ราคาสินทรัพย์รอการขายบวกด้วยภาษีที่ดิน เทียบกับราคาที่ผู้ซื้อเสนอมาจะเหมาะสมกันหรือไม่
ด้าน นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การเก็บภาษีมรดก และภาษีที่ดินเป็นตัวกระตุ้นให้บรรดาเศรษฐีนำสินทรัพย์ที่ถือครองไว้มาบริการจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์ เพราะจะทำให้ต้นทุนการจัดการสินทรัพย์สูงขึ้น ดังนั้น จึงเป็นผลดีให้ธุรกิจการวางแผนบริหารทรัพย์สินได้รับความนิยม และมีผู้ใช้บริการมากขึ้น
นอกจากนี้ บรรดาเศรษฐีในเมืองไทยยังให้ความสนใจการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการสืบทอดความมั่งคั่งสู่รุ่นต่อไป เพราะธุรกิจขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จล้วนเป็นธุรกิจครอบครัว ดังนั้น จึงมีการใช้บริการเพื่อความยั่งยืนของธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยงของความซับซ้อนของเศรษฐกิจ และธุรกิจ
ปัจจุบัน สายงานธุรกิจบริการไพรเวต แบงกิ้ง ของธนาคารกสิกรไทย มีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ 42 และมีอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยร้อยละ 22 โดยปัจจุบันมียอดรวมสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของกลุ่มลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงรวมเป็น 7.6 แสนล้านบาท มีลูกค้าประมาณ 9,600 ราย จากทั้งหมดในประเทศไทยที่มีอยู่ประมาณ 23,000 ราย แบ่งสัดส่วนเป็นลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ ร้อยละ 80 และต่างจังหวัด ร้อยละ 20