xs
xsm
sm
md
lg

BTW จ่อเข้าเทรดใน mai ระดมทุน 156 ล้านหุ้น ขยายงานโมดูลเหล็กกล้า คาดทัน Q3/59

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTW
บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ เตรียมเข้าระดมทุนขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ mai กว่า 156 ล้านหุ้น ตั้งเป้าระดมทุนเพื่อรองรับการขยายงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก โครงสร้างเหล็ก และชิ้นงานขนาดใหญ่ รองรับงานในอนาคต

นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTW เปิดเผยว่า ธุรกิจหลักของกลุ่ม BTW ซึ่งมีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแม่ (BTW ถือหุ้น 99.50 เปอร์เซ็นต์) โดยให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก (Steel Part Fabrication) และผลิตโครงสร้างเหล็ก และชิ้นงานขนาดใหญ่ หรือโมดูล (Modularization) สำหรับอุตสาหกรรมพลังงาน โรงกลั่นน้ำมัน โรงไฟฟ้า และเหมืองแร่

สิ่งที่เป็นจุดแข็งของกลุ่มบริษัทฯ คือ การมีโรงงานอยู่ภายในท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่การผลิตรวมกว่า 174,000 ตารางเมตร สามารถผลิตชิ้นงานได้กว่า 36,000 ตันต่อปี นับเป็นผู้ประกอบการที่มีพื้นที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนอยู่ภายในท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกมากที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ BTW สามารถรองรับการผลิตชิ้นงานโมดูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของการผลิต และการขนส่ง โดยที่ผ่านมา มีงานหลายโครงการที่ผลิตงานแปรรูป และประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่สำหรับขนส่งทางเรือให้แก่ลูกค้าในต่างประเทศ เช่น โครงการ Solomon Iron Ores ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 6,780 ล้านบาท และโครงการ Roy Hills ซึ่งมีมูลค่า 3,424 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการเหมืองแร่ในประเทศออสเตรเลีย
 
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโรงงานที่อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับการผลิตชิ้นงานขนาดกลาง และสามารถขนส่งทางถนนได้ เช่น โครงการโรงบำบัดน้ำเสียงชางงี ประเทศสิงคโปร์ มูลค่าโครงการ 552 ล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าบางปะกง 5 ซึ่งกลุ่มบริษัทฯ ออกแบบ และผลิตระบบท่อระบายความร้อน มูลค่าโครงการ 94.6 ล้านบาท โดยโรงงานทั้ง 2 แห่ง ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนในการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นเวลา 8 ปี นอกเหนือจากจุดแข็งในเรื่องของทำเลที่ตั้งของโรงงานทั้ง 2 แห่งแล้ว ด้วยความชำนาญ และประสบการณ์ในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน ทำให้กลุ่มบริษัทมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนการให้บริการ Steel Fabrication ได้หลากหลายรูปแบบให้แก่กลุ่มลูกค้าในหลายๆ อุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของกลุ่มบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันรายอื่น โดยนอกจากจะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าแล้ว ยังมีส่วนช่วยทำให้รายได้ของบริษัทมีความต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการที่กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากงานแปรรูป และประกอบถังทนแรงดัน และบรรจุให้แก่โรงไฟฟ้าในไทย และต่างประเทศมาโดยตลอด เนื่องมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการได้รับงานโครงการโมดูลขนาดใหญ่

ขณะที่ นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงินของ BTW กล่าวเสริมว่า บมจ.บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ หรือ BTW เป็นบริษัทฯ ที่มีผลงานโดดเด่นมายาวนานต่อเนื่อง มีฐานลูกค้าสำคัญในประเทศไทย ออสเตรเลีย ประเทศในกลุ่มทวีปเอเชีย ทวีปอเมริกา และทวีปยุโรป โดยบริษัทรับงานทั้งจากเจ้าของโครงการโดยตรง และจากผู้รับเหมาหลักของโครงการ หรือ EPC Contractor ขนาดใหญ่ระดับโลก และมีความพร้อมที่จะรับงานโครงการใหญ่ในอนาคต ด้วยคณะผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมขั้นสูง และประสบการณ์ในธุรกิจอย่างยาวนาน อีกทั้งทีมงานวิศวกรที่มุ่งเน้นการบริหารโครงการที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการส่งมอบงานที่มีคุณภาพ และสิ่งสำคัญที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือ ความคล่องตัวในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าได้หลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการพึ่งพิงอุตสาหกรรมใดเพียงอุตสาหกรรมหนึ่งแล้ว ยังช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่กลุ่มบริษัทในการเข้ารับงานในอุตสาหกรรมที่ให้ผลตอบแทนที่สูง ส่งผลให้ BTW มีผลประกอบการที่ดี และสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai คือ การเปิดประตูไปสู่โอกาสที่เพิ่มมากขึ้นในระดับนานาชาติ

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ปี 2558 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม 1,949 ล้านบาท กำไรสุทธิ 675 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 475 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,742 ล้านบาท ขณะนี้บริษัทฯ มีความพร้อมในการระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อนำเงินไปปรับปรุงพื้นที่โรงงานท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องจักร และอุปกรณ์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และต่อเนื่องให้แก่บริษัทฯ ต่อไป
 
ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 บมจ.บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ หรือ BTW มีจำนวนทุนจดทะเบียน 378 ล้านบาท จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO จำนวน 156,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 20.63% ของจำนวนหุ้นที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ โดยมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ประกอบด้วย กลุ่มศาตวินท์ และกลุ่มรัศมีทินกรกุล ถือหุ้นรวม 600,000,000 หุ้น หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะลดลงเหลือ 79.37% และประชาชนทั่วไป 20.63% โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้มีบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
กำลังโหลดความคิดเห็น