xs
xsm
sm
md
lg

SPCG รุกหนักตลาดโซลาร์รูฟ โรงงานใหญ่แห่สนใจขอติดตั้ง มั่นใจโกยกำไรทะลุพันล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

SPCG รุกหนักตลาดโซลาร์รูฟ หลังโรงงานใหญ่แห่สนใจขอติดตั้งเพียบ ตั้งเป้าปีนี้ผลิตถึง30 เมกะวัตต์ มั่นใจโกยกำไรเต็ม 100 ทะลุพันล. อวดผลประกอบการไตรมาสแรกโตต่อเนื่องอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เดินหน้าลุยต่อโซลาร์ฟาร์ม ญี่ปุ่น-พม่า-ฟิลิปปินส์

นางวันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานวันบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) โดยเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 1/59 มีรายได้รวม 1,230.5 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 690.4 ล้านบาท ซึ่งเติบโตร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 630.5 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 39.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ และมีการชำระคืนเงินกู้ยืมให้แก่สถาบันการเงิน หลังจากการเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า12,500 ล้านบาท รวมถึงการรับรู้รายได้จากจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ใน 3 เดือนแรก 102 ล้านหน่วย หรือสูงขึ้นกว่าร้อยละ 4 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ขายได้ 98.5 ล้านหน่วย

ด้าน นายสมศักดิ์ กุญชรยาคง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสพีซีจี เปิดเผยถึงแผนการลงทุนในปีนี้ว่า บริษัทฯ มีแผนทำธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น เพราะเห็นโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มพัฒนาโครงการในพื้นที่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติภูเขาไฟไดเซน ทำโครงการเมกะโซลาร์ 30 เมกะวัตต์ จะใช้เวลาพัฒนาโครงการประมาณ 1 ปี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าได้ราวต้นปี 2560 และอยู่ระหว่างการเจรจาพันธมิตรในพม่า และฟิลลิปปินส์ ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2-3 นี้เช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา ภายใต้บริษัทโซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด หรือ SPR ซึ่งคาดว่าธุรกิจจะเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 โดยแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าสำหรับที่อยู่อาศัยทั่วไป มีบริษัท โฮมโปร เป็นตัวแทนจำหน่าย และกลุ่มธุรกิจอุสาหกรรม เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการใช้ไฟฟ้า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลตามมาตรการการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินลงทุน โดยจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2560 อีกทั้งบริษัทยังตั้งเป้าหมายติดตั้งโซลาร์รูฟ ให้ได้ 30 เมกะวัตต์ ภายในปีนี้

โดยที่ผ่านมา มีโรงงานที่แสดงความสนใจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาเป็นจำนวนมาก แต่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการขอ BOI หากกระบวนการแล้วเสร็จสามารถดำเนินการติดตั้งได้ทันที เพราะโรงงานส่วนใหญ่มีความพร้อมด้านเงินทุน และพื้นที่ในการติดตั้งอยู่แล้ว คาดว่าปีนี้กำไรในส่วนของโซลาร์รูฟ ทะลุ 1,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไร 400 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น