xs
xsm
sm
md
lg

หลายสถาบันปรับเพิ่มราคาทอง หนุนทั้งปีมีลุ้น 1,400 เหรียญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แรงสนับสนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นมีเพิ่ม หลังสถาบันการเงินหลายแห่งทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำทั้งปีสูงสุดถึง 1,400 เหรียญ/ออนซ์ รับข่าวเฟดอาจไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก แต่แรงกดดันยังมาจากเฟดหลังพบคณะกรรมการมีความเห็นสวนทาง อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง ภาพรวมหากราคาไม่หลุด 1,255-1,240 เหรียญ/ออนซ์ ทองคำยังมีทิศทางไปต่อ

“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ให้ความเห็นถึงราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ว่า ราคาทองคำยังมีแรงซื้อ และแรงขายเข้ามากดดันราคาสลับกันไป จากการคาดการณ์ของสถาบันการเงินจต่างๆ ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในช่วง 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือนจากนี้ โดยเชื่อว่า มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึง 1,400 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งถือเป็นมุมมองเชิงบวกที่มีผลต่อราคทองคำมาก

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) บางรายที่ออกมาระบุว่า คณะกรรมการเฟดยังมีมุมมองต่ออัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความกังวลเข้ามากดดันแรงซื้อในทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนได้มีการทยอยนำทองคำออกมาแบ่งขายเพื่อลดความเสี่ยง

โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือภาพรวมเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐฯ หากตัวเลขออกมาสดใส คาดการณ์ว่า เฟดอาจมีการปรับอัตราดอกเบี้ยไดีอีก 2 ครั้งในปีนี้ยังคงเกิดขึ้น และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำ ขณะเดียวกัน หากตัวเลขเศรษฐกิจยังดูไม่ดี กระแสการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว นั่นหมายถึงจะมีผลบวกต่อการเติบโตของราคาทองคำเช่นกัน


“ควรจับตาดูข้อมูลภาคอสังหาฯ และอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงรายงาสนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกำหนดทิศทางราคาทองคำได้”

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน เนื่องจากราคาทองคำอยู่ในช่วงการปรับฐาน และการแกว่งตัวออกด้านข้างในระยะสั้น ทั้งนี้ อาจต้องจับตาการอ่อนตัวของราคา หากยังอยู่เหนือ 1,255-1,240 เหรียญ/ออนซ์ ได้ เชื่อว่าราคามีโอกาสดีดตัวขึ้นไปที่บริเวณ 1,285-1,303 เหรียญ/ออนซ์ แต่ยังต้องจับตาอย่างต่อเนื่องเพราะหากราคาปรับตัวขึ้นแต่ไม่ผ่าน 1,285 เหรียญ/ออนซ์ อาจเกิดแรงเทขายทำกำไรสลับออกมา แต่หากสามารถผ่านได้ สามารถชะลอการขายเพื่อไปขายในแนวต้านต่อไปที่ระดับ 1,300-1,310 เหรียญ/ออนซ์ โดยยังเน้นการลงทุนระยะสั้นในการแกว่งตัวของราคา และต้องติดตามทิศทางค่าเงินบาทที่มีการอ่อนขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น