สินทรัพย์เสี่ยงเริ่มปรับตัวเพิ่ม สร้างแรงเทขายในฝั่งทองคำ หลังเฟดลดจำนวนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งการตรึงดอกเบี้ยของ กนง.ทำให้บาทแข็งค่าต่อกดดันทิศทางทองคำในประเทศ ภาพรวมราคายังมีโอกาสทดสอบ 1,300 เหรียญ/ออนซ์
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนดื ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ราคาทองคำที่ผ่านมาดูเหมือนว่าราคาทองคำจะตอบรับผลการประชุมของ FOMC หรือเฟดค่อนข้างดี การประชุมมีการตึงอัตราดอกเบี้่ยตามนโยบายไว้ตามเดิมตามที่นักลงทุนมีการคาดการณ์เอาไว้ แต่อย่างไรแล้ว ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ยังมีการส่งสัญญาณที่จะชะลอในส่วนของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยลดลง จากก่อนหน้านี้ 4 ครั้ง หรือเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลล่าห์สหรัฐมีการปรับตัวลง และส่งผลให้ราคาทองคำในฐานะสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งโดยปกติจะขึ้นสวนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน แต่การขยับขึ้นของราคาทองคำยังคงขยับขึ้นค่อนข้างจำกัด
“การอ่อนตัวลงของดอลลาร์ไปส่งผลเชิงบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เมื่อทิศทางเศรษฐกิจในฝั่งจีนดีขึ้น หลังจากทิศทางเงินหยวนเริ่มแข็งค่าสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า ประกอบกับทิศทางราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ไปกระตุ้นการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ปัจจัยดังกล่าวยังคงส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำเริ่มมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา”
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา เห็นค่อนข้างชัดว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวสวนทางต่อการลงทุนของสินทรัพย์เสี่ยง และทิศทางราคาน้ำมัน หากการขยับขึ้นของราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นยังคงขยับขึ้นได้ต่อ การขยับขึ้นของราคาทองคำอาจจะขยับขึ้นได้ค่อนข้างจำกัด และอาจจะเกิดการอ่อนตัวลงมาปรับฐาน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่จะมีการประกาศตัวเลขออกมามีค่อนข้างน้อย เช่น การเปิดเผยยอดซื้อสินค้าคงทน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ รวมถึงการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือว่า GDP ประจำไตรมาส 4 ของปี 2558
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งไทยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามนโยบายระดับเดิมซึ่งเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าได้ต่อ และอาจจะเป็นปัจจัยกลับมากดดันทิศทางราคาทองคำภายในประเทศ
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน แม้ว่าราคาทองคำยังคงได้รับปัจจัยหนุน และยังคงมีการทยอยขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่แรงขายทำกำไรยังคงมีการทำสลับออกมาเช่นกัน ประกอบกับทิศทางของสกุลเงินบาทมีการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำภายในประเทศขยับขึ้นได้ค่อนข้างจำกัดกว่าทองคำต่่างประเทศ
ทำให้ในส่วนของการเข้าซื้อนักลงทุนอาจพิจารณารอการอ่อนตัวลงมาของราคาทองคำแล้วค่อยเข้าซื้อ ขณะเดียวกัน หากราคาทองคำมีการขยับขึ้นอาจมีการทยอยแบ่งทองคำออกขายบางส่วนหากยังไม่ผ่านแนวต้าน แต่หากราคาสามารถผ่านแนวต้าน สามารถชะลอการขายไปยังโซนแนวต้านถัดไป และหากราคาอ่อนตัวลงมาอาจจับตาดูในโซนแนวรับบริเวณ 1,239-1,225 เหรียญ/ออนซ์ เป็นโซนแนวรับแรก
โดยหากราคาไม่ได้ทำระดับต่ำสุด แนวโน้ม หรือโมเมนตัมยังมีโอกาสทดสอบเหนือกรอบราคาด้านบนบริเวณ 1,283 เหรียญ/ออนซ์ เป็นจุดที่ราคาขึ้นไปทดสอบหลายครั้งแล้วยังไม่ผ่าน แต่หากผ่านได้จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,300 เหรียญ/ออนซ์