การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์ นักลงทุนโยกสินทรัพย์เข้าหาทองคำ และย้ายเม็ดเงินเข้าเอเชีย ภาพรวมมีโอกาสการประชุมเฟดเดือนมีนาคมอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับเดิม ผลักดันให้ราคาทองคำทะยานขึ้น แต่ต้องระมัดระวังแรงเทขายทำกำไรหลังราคาปรับตัวขึ้นมาก
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในว่าที่ผ่านมามีการขยับขึ้นได้มาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากสถานการณ์การคาดการเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่มีการประกาศออกมาล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มทิศทางฝั่งสหรัฐฯ ที่มีการชะลอตัวลงอย่างชัดเจน
“ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ทิศทางสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง และร่วงลงมากขึ้น หลังจากประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่สามารถลงคะแนนเสียงวอร์ดของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีการออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับสภาวะการเงินที่ตึงตัวในสหรัฐฯ โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะยังไม่สามารถปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในการประชุมประจำเดือนมีนาคมได้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำมีการทะยานขึ้น และสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูง”
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา คือ เทศกาลตรุษจีนปริมาณการซื้อขายราคาทองคำอาจจะเบาบางลง และอาจเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ทำให้ราคาทองคำเกิดการแกว่งตัวได้ค่อนข้างมาก ซึ่งนักลงทุนอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง ประกอบกับราคาทองคำที่มีการขยับขึ้นค่อนข้างมาก อาจจะต้องระมัดระวังในส่วนของแรงขายทำกำไรที่สลับออกมาที่ราคามีการดีดตัวขึ้นได้ต่อ นอกจากนี้ นักลงทุนต้องจับตาการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นมาก หลังจะกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการตึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนมีการขายดอลลาร์ และมีการโยกเงินกลับมายังภูมิภาคเอเชีย ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทมีทิศทางแข็งค่ามากยิ่งขึ้นนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของค่าเงินบาทจะส่งผลเชิงลบทำให้ราคาทองคำภายในประเทศขยับขึ้นได้น้อยกว่าทองคำต่างประเทศ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังขึ้นอยู่กับการการแถลงการณ์ของของประธานเฟด ต่อสภาครองเกส รวมถึงการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน ซึ่งต้องจับตาดูการแถลงดังกล่าวจะมีการส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยไปในทิศทางใด ขณะที่ตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์จะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มชะลอตัวลง บ่งชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เริ่มส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังเป็นตัวหนุนในตลาดทองคำ
โดยกลยุธ์การลงทุน เนื่องจากราคาทองคำมีการทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ราคาทองคำจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แรงขาย หรือแรงซื้ออาจจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนอาจจะต้องจับตา เพราะว่าแรงซื้อที่พยุงราคาทองคำไว้เริ่มเบาบาง ราคาทองคำอาจจะถูกขายทำกำไรออกมา โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ยังเน้นให้ลงทุนในระยะสั้น โดยรอการอ่อนตัวลงมาของราคาแล้วค่อยซื้อ
ทั้งนี้ ประเมินในส่วนของโซนแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,130-1,125 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ หากราคามีการอ่อนตัวลงมาไม่หลุดในโซนดังกล่าวในระยะสั้น แนวโน้มราคาทองคำยังถือว่าเป็นบวก แต่หากราคาขยับขึ้นจนสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ราคายังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบในโซนแนวต้านบริเวณ 1,175-1,190 เหรียญดอลลาร์/ออนซ์ แต่ถ้านักลงทุนรับความเสี่ยงได้น้อย และราคามีการขยับขึ้นมาเร็วและแรงต่อ อาจจะมีการแบ่งทองคำทยอยออกขายเพื่อลดความเสี่ยง และต้องติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจการลงทุน