ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 0.31% ปิดที่ระดับ 1,254 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยที่เข้ามากระทบ ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติ 9-1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามคาด ขณะที่คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 2 ครั้งในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 4 ครั้ง + สหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ร่วงลง 0.2% ในเดือน ก.พ. ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ ขณะที่นักลงทุนกลับเข้ามาลงทุนในทองคำอีกครั้งหลังชะลอการซื้อขายในช่วงก่อนหน้าเพื่อรอผลประชุมเฟด
อย่างไรก็ตาม ราคาทองเริ่มมีการย่อตัวลงมาหลังนักลงทุนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแทนทองคำจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นขานรับมติคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงการกลับมาแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากอ่อนค่าติดต่อกันหลายวันจากมติการคงดอกเบี้ยของเฟดสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
แนวโน้มปรับขึ้นรอบใหม่/แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค
ราคาทองแกว่งออกข้างหลังปรับขึ้นแรงแต่ยังทรงตัวเหนือเส้น 5 และ 10 วันได้ ขณะที่เส้น 5 วันเริ่มปรับขึ้น และมีแนวโน้มตัดเส้น 10 วันขึ้นมาอีกครั้งเป็นแรงหนุนรอบใหม่ ขณะที่แนวพักตัวของแท่งเทียนอยู่ในช่วงแนวแขน BULLISH FLAG ระยะสั้น ทำให้ราคามีโอกาสปรับขึ้นรอบใหม่
แนวรับ 1,225/1,220 แนวต้าน 1,280/1,285
