xs
xsm
sm
md
lg

ตัวเลข GDP ไตรมาสแรกปี 59 ที่ออกมาสวยหนุนตลาดหุ้นไทยยืนได้แข็งแกร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


GBS มองแนวโน้ม SET Index สัปดาห์นี้จะได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ดีดตัว และตัวเลข GDP ไตรมาสแรกปี 59 ที่ออกมาสวย พร้อมให้กรอบ 1,390-1,420 จุด

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลเชิงบวกด้านจิตวิทยาต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน บวกกับสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 1.3% ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี ส่วนสภาพัฒน์ รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/59 เพิ่มขึ้น 3.2% เติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และขยายตัวสูงสุดในรอบ 12 ไตรมาสอีกด้วย

อย่างไรตาม ก็ยังมีปัจจัยที่ยังคงกดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ กรณีจากประเทศจีนประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 10.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนชะลอตัวลงจากเดือน มี.ค.ที่มีการขยายตัว 10.5% ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชะลอตัวลงจากเดือน มี.ค.ที่ขยายตัว 6.8%

ด้านบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือประเมินธุรกิจแบงก์พาณิชย์ในปีนี้ ยังคงมีแนวโน้มการชะลอตัวของสินเชื่อ และกำไรตามภาวะเศรษฐกิจ คาดการณ์ว่าทั้งปีสินเชื่อจะเติบโตแค่ 3-5% ส่งผลให้มีความกังวลเกี่ยวกับยอดสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเพิ่มในต่างจังหวัด อาจกลายเป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ล่าสุด อยู่ที่ 35.4 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ กดดันต่อ Fund Flow ต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงมีปัจจัยที่ต้องจับตา คือ วันที่ 19 พ.ค.นี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 26-27 เม.ย. ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม และวันที่ 27 พ.ค. คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะมีการเปิดประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz รอบใหม่ ล่าสุด กลุ่มทรูประกาศได้แจ้งถึงมติบอร์ดสรุปว่า ไม่เข้าร่วมประมูลในรอบนี้ตามที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนกลุ่ม บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างพิจารณา

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET โดยมองว่า มีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้ากัน โดยมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล รวมถึงตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2559 เพิ่มขึ้น 3.2% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การที่เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.4 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ กดดันต่อ Fund Flow ต่างชาติ และภาวะตลาดหุ้นโดยรวม

ดังนั้น คาดว่า SET ในสัปดาห์นี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,390-1,420 จุด โดยแนะนำซื้อเก็งกำไรเป็นรอบ (ลงซื้อ/ขึ้นขาย) แบบ Selective Buy ได้แก่ กลุ่มเหล็ก ราคาเหล็กรีดร้อนเพิ่มขึ้น 56% จากปีก่อน ล่าสุด 570 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI Global Standard Index รอบใหม่ แนะนำ ROBINS EGCO และ MSCI Global Small Cap index แนะนำ DNA GL และ S

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลง 15 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หรือคิดเป็น 1.16% ปิดที่ระดับ 1,272 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ปัจจัยกดดันหลักมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น หลังประธานเฟด สาขาชิคาโก มีมุมมองต่อปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวราว 2.5% ในปีนี้ สอดคล้องต่อความเห็นของประธานเฟด สาขาบอสตัน ที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และระบุว่า ตลาดการเงินกำลังประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับช่วงจังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และมองในแง่ลบมากเกินไปเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ราคาทองปรับลงไม่มาก และฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างจากการที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงวอลท์ ดิสนีย์ และ เมซีย์ อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด รวมถึงมุมมองที่เป็นบวกของโกลด์แมน แซคส์ และเจพีมอร์แกน ที่คาดว่าราคาทองจะยังคงปรับตัวขึ้นต่อในปีนี้

อย่างไรก็ตาม ราคาทองเริ่มมีแรงกดดันอีกครั้งหลังรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ประกอบกับรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นจากดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ปรับตัวขึ้นในเดือน เม.ย. ซึ่งได้สร้างความกังวลว่าอาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน

ดังนั้น ประเมินแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาทองยังอยู่ในแนวโน้มพักตัวออกข้างโดยมีฐานของแนวแขนรูปแบบ Bullish Flag รองรับอยู่ ขณะที่ระยะสั้นราคาเริ่มขึ้นมายืนเหนือเส้น 5 วันได้ เป็นสัญญาณบวกเสริมแนวพักตัว บวกกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มปรับขึ้นทำให้ราคาแนวโน้มพักตัวเพื่อปรับตัวขึ้นรอบใหม่ตามรูปแบบ สรุปแนวโน้มทองคำมีโอกาสพักตัวช่วงสั้นๆ ก่อนปรับขึ้นต่อตามสัญญาณบวกด้านเทคนิค โดยมีแนวรับ 1,245-1,240 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,305-1,310 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์
กำลังโหลดความคิดเห็น