ไรมอนแลนด์ฯ เผยแผนปี 59 ผุด 2 โครงการไฮเอนด์ มูลค่ารวมไม่เกิน 8,000 ล้านบาท พร้อมทุ่มงบซื้อที่ดินกว่า 3,000 ล้านบาท รองรับการพัฒนาโครงการ แจงแบ็กล็อกรอโอนในมือ 6,900 ล้านบาท ไตรมาสแรกยอดขายแล้ว 750 ล้านบาท คาดทั้งปีเข้าเป้า 2.5-3,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ 5,000 ล้านบาท ล่าสุด เปิดตัว เดอะลอฟ ศรีราช มูลค่า 3,100 ล้านบาท
นายจอห์นสัน ตัน กรรมการผู้อำนวยการและกรรมการบริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML กล่าวว่า ในปี 2559 นี้ บริษัทมีแผนจะลงทุนพัฒนาโครงการ 2 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นพัฒนาโครงการไฮเอนด์ โดยขณะนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการซื้อที่ดินใหม่ ซึ่งมองไว้ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่ดินในเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องต่อแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทที่จะพัฒนาโครงการในจังหวัดท่องเที่ยว และพื้นที่โซน CBD ในกรุงเทพฯ
โดยในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายทั้งปี 2,500-3,000 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทสามารถสร้างยอดขายไก้แล้ว 750 ล้านบาท มาจาก 7 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะลอฟท์ เอกมัย, โครงการเดอะลอฟท์ อโศก, โครงการเดอะรีเวอร์, โครงการ 185 ราชดำริ, โครงการเดอะไซร์ วงศ์อมาตย์, โครงการยูนิกซ์ พัทยาใต้ และโครงการมิวส์ เย็นอากาศ ขณะที่บริษัทมียูนิตที่เหลือขายในมือราว 7,370 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยขายได้อย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้ยอดขายในปีนี้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้
ส่วนยอดรับรู้รายได้ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการรับรู้รายได้จากยอดขายรอโอน หรือแบ็กล็อกในมือ ซึ่งอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะทยอยโอนในปีนี้ 5,000ล้านบาท แผนกลยุทธ์ของบริษัทที่จะพัฒนาโครงการในจังหวัดท่องเที่ยวและพื้นที่โซน CBD ในกรุงเทพฯ ส่วนที่เหลืออีก 1.9 พันล้านบาท จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 2560
นอกจากนี้ ไรมอนแลนด์ เตรียมเปิดขายโครงการเดอะ ลอฟท์ อโศก คอนโดมิเนียมไฮเอนด์ จำนวน 211 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,140 ล้านบาท โดยจะเป็นขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 14-15 พ.ค.นี้ สำหรับโครงการดังกล่าวมีราคาขายเฉลี่ย 190,000-250,000 ต่อตารางเมตร (ตร.ม.)และมีแผนจะปรับราคาขายขึ้น 3-5% หลังจากจบงานเปิดตัวในช่วงแรก
โดยในช่วงเปิดขายโครงการ เดอะ ลอฟท์ อโศก “ไรมอนแลนด์” ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายอยู่ที่ก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ 40% แต่จากการตอบรับที่ดีของลูกค้าทำให้ขณะนี้มีลูกค้าดีเกินคาด ซึ่งทำได้เดือบ 50% และตั้งเป้าภายใน 2 ปีข้างหน้าจะเพิ่มเป็น 80%