ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองนายกเมืองพัทยา แจงโครงการรองรับน้ำริมสายชายหาดเป็นโครงการเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งระบบ ชี้มวลน้ำฝั่งตะวันออกเป็นปัญหาใหญ่ เตรียมเสนอแผนจัดทำโครงการแก้มลิงริมถนนเลียบทางรถไฟ ผันน้ำเข้าสู่เขตเมืองพัทยา
ดร.วีระวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา กล่าวถึงภาพรวมของโครงการระบบระบายน้ำบริเวณชายหาดเมืองพัทยา ในงบประมาณ 192 ล้านบาท ที่จัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในเขตพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งปัจจุบัน มีการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 85% แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา ยังพบว่าเกิดปัญหาน้ำท่วมขังต่อเนื่อง จนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า โครงการดังกล่าวจะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ว่า สำหรับโครงการนี้จัดทำระบบการระบายน้ำด้วยการทำบ่อพักขนาดใหญ่ และวางท่อระบายน้ำขนาด 2 เมตร จากริมถนนสายชายหาด ออกไปยังทะเลในระยะ 100-1,200 เมตร จำนวน 3 จุด คือ ปากซอย 6/1 โค้งดุสิตรีสอร์ท และหน้าโครงการวอล์กกิ้งสตรีท ซึ่งพบว่า คืบหน้าไปมาก แต่ยังเหลือเพียงบางจุดที่ต้องรอโครงการเสริมทรายชายหาดเท่านั้น
สำหรับกรณีของปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เมืองพัทยานั้น คงจะหวังให้โครงการนี้จะสามารถรองรับปัญหาได้ทั้งหมดคงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง ด้วยโครงการนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากขึ้น ลดปัญหาภาวะน้ำท่วมขังให้หมดไปโดยเร็ว ทั้งนี้ เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่เมืองพัทยานั้นมีจำนวนหลายจุด และส่วนใหญ่จะไหลมารวมกันบริเวณชายหาดพัทยา แต่หากมีการแก้ไขปัญหาคลองพัทยาใต้สำเร็จ รวมทั้งการต่อเชื่อมระบบท่อที่สมบูรณ์ เช่น จุดรับน้ำบริเวณแยกวัดชัยมงคลพัทยาใต้ เข้าสู่ระบบได้ก็จะทำให้ปัญหาคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันก็กำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่
ดร.วีระวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ปัญหาหลักของเมืองพัทยา มาจากมวลน้ำจำนวนมากที่ไหลบ่าจากฝั่งตะวันออกซึ่งเป็นที่สูงไหลลงสู่ที่ต่ำคือ อเมืองพัทยา โดยเฉพาะช่วงซอยเขาน้อย เขาตาโล ชัยพฤกษ์ และห้วยใหญ่ ซึ่งด้วยมวลน้ำเหล่านี้ที่ไม่มีระบบรองรับที่ดีก็ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าสู่ระบบของเมืองพัทยาจนไม่สามารถรองรับได้ทัน ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมขัง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเมืองพัทยาได้ทำการออกแบบแนวทางแก้ไขปัญหาไว้ด้วยการจัดระบบแก้มลิงบริเวณซอยเขาน้อย พร้อมท่อส่งน้ำเพื่อระบายตรงไปสู่คลองห้วยใหญ่ หรือคลองเสือแผ้ว ก่อนผันไปสู่คลองนาเกลือ ที่จัดทำคันกันระดับน้ำตลอดแนวเพื่อลดภาวะน้ำไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจ จากนั้นจึงระบายน้ำลงสู่ทะเล ซึ่งคงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการเตรียมนำเสนอต่อสภาเมืองพัทยาเพื่อพิจารณาแล้ว
