“โตโต้” วางเป้าหมายผลักดันการเติบโตของยอดขายปีละ 20% หวังติด 1 ใน 3 ตลาดสุขภัณฑ์ระดับกลางถึงบนตามแผนระยะสั้นตั้งแต่ปี 58-62 ระบุไตรมาส 1 ธุรกิจโตโต้ มีการเติบโตสวนทางภาวะเศรษฐกิจ เหตุควบคุมคุณภาพการผลิต ของเสียน้อย ส่งออกไปญี่ปุ่นสูงถึง 70% เผยหากในอนาคตลาดในไทยดีมานด์สูงจะปรับพอร์ตมาเน้นตลาดในประเทศมากขึ้น พร้อมเปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมล้ำสมัย “Neorest with Actilight” สุขภัณฑ์ฆ่าเชื้อ และสลายสิ่งปกปรกด้วยตัวเอง เจาะตลาดไฮเอนด์
วานนี้ (27 เม.ย.) บริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับสุขภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย Neorest with Actilight สุขภัณฑ์ฆ่าเชื้อ และสลายสิ่งปกปรกด้วยตัวเอง โดยมี นายไดดิโระ โนกะตะ ประธานบริษัท โตโต้ เอเชีย โอเชียเนีย จำกัด ประเทศสิงคโปร์ นายฮิโรยูกิ ซูซูกิ ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด นายเคียวจิ อะซาดะ ผู้จัดการทั่วไป ส่วนวางแผนกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตโต้ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ร่วมงานแถลงข่าว
“สำหรับประเทศไทยแล้วในอนาคตไทยจะเป็นหนึ่งในผู้นำในเอเชียซึ่งเราให้สำคัญ” นายไดดิโระ โนกะตะ กล่าว
ขณะที่นายฮิโรยูกิ ซูซูกิ ประธานบริษัท โตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ตามแผนระยะสั้นตั้งแต่ปี 2558-2562 “โตโต้” ได้วางนโยบายเชิงรุกสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยหวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้น ตั้งเป้าการเพิ่มขึ้นของยอดขายปีละไม่ต่ำกว่าประมาณ 20% ตามแผนที่จะผลักดันให้แบรนด์ของ “โตโต้” ติด 1ใน 3 ของตลาดในกลุ่มลูกค้าตั้งแต่กลางไปจนถึงระดับบน ที่มีความโดดเด่นในด้านความล้ำสมัยทั้งด้านการออกแบบรูปลักษณ์ และด้านเทคโนโลยีระดับโลก
“ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอดขายของโตโต้ในไทยเติบโตตามเป้าที่ 20% เป็นผลมาจากการปรับปรุงโฉมรูม การรีโนเวตร้านตัวแทนจำหน่าย มีการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ ส่งผลถึงราคารขายที่ดีขึ้น โดยมั่นใจว่าตลอดทั้งปี 59 ธุรกิจของโตโต้จะมีอัตราเติบโตได้ประมาณ 20-30% ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดี ก็เนื่องจากเมื่อไปเทียบกับธุรกิจเดียวกัน ยอดขายของโตโต้ยังน้อยอยู่”
อีกทั้งการเติบโตของโตโต้นั้นก็น่าจะมีปัจจัยมาจากการส่งออก โดยกว่าครึ่งของกำลังการผลิตนำไปจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสัดส่วนของตลาดส่งออกจะอยู่ที่ 70% และ 30% เป็นตลาดในประเทศ อย่างไรก็ตาม ในกรณีหากตลาดในประเทศไทยมีการเติบโต มีความต้องการมาก โตโต้ ก็สามารถปรับลดสัดส่วนการส่งออกแล้วหันมาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งทางทีมมีการประมาณการแผนงานไว้แล้ว โดยแผนกำลังการผลิตในปี 59 จะอยู่ที่ 5.4 แสนชิ้น ซึ่งเต็มกำลังการผลิต และยังเพิ่มขึ้นได้ทุกปี เนื่องจากมีการทำสินค้าที่มีราคารแพงขึ้น และมีการควบคุมคุณภาพ และของเสียได้ดีขึ้น
นายฮิโรยูกิ กล่าวว่า ทางโตโต้ ได้นำสินค้านวัตกรรมใหม่สุดล้ำเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ได้แก่ Neorest with Actilight สุขภัณฑ์ฆ่าเชื้อ และสลายสิ่งสกปรกด้วยตัวเอง โดยเริ่มจำหน่ายในยุโรป และสหรัฐฯ ส่วนในภูมิภาคเอเชีย ไทยเป็นประเทศที่ 5 ที่นำเข้ามาทำตลาด
สำหรับสุขภัณฑ์รุ่นใหม่เป็นสินค้าระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นที่สุดของเทคโนโลยีการทำความสะอาดอย่างแท้จริง พร้อมด้วยก๊อกผสมสำหรับอาบน้ำระบบควบคุมอุณหภูมิได้คงที่ Shape Memory Alloy (SMA) ซึ่งโตโต้ พัฒนาขึ้นเป็นรายแรกของโลก และถือเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากโตโต้