ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ชี้ให้เห็นการขาดแคลนพื้นที่สำนักงานในย่านศูนย์กลางธุรกิจในกรุงเทพฯ ที่สังเกตได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 เนื่องจากจำนวนดีมานด์ที่มีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขัดต่อจำนวนซัปพลายที่มีอยู่อย่างจำกัด ในขณะเดียวกัน อัตราการเช่ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไนท์แฟรงค์ คาดการณ์ว่า ในตลาดสำนักงานจะเกิดภาวะขาดแคลนในช่วง 2 ปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้อัตราค่าเช่าปรับสูงขึ้นตามไป นอกจากนี้ ไนท์แฟรงค์ยังคาดว่า จะมีบริษัทที่ต้องขยายตัว หรือย้ายที่ตั้งไปสู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ เนื่องจากจำนวนซัปพลายในย่านศูนย์กลางธุรกิจมีจำนวนจำกัด
นายมาร์คัส เบอร์เทนชอว์ กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายตัวแทนนายหน้า บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผู้เช่ากำลังเผชิญต่อภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ในขณะที่ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น หลายๆ บริษัทจำต้องใช้กลยุทธ์ควบคุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น การจัดเวลาทำงานให้ยืดหยุ่นมากขึ้น การจัดพื้นที่โต๊ะทำงานที่เป็นมาตรฐาน และการลดจำนวนโต๊ะทำงาน การแยกพื้นที่ดำเนินงานของบางแผนก หรือแม้แต่กระทั่งย้ายไปยังอีกสำนักงานหนึ่ง
ตามรายงานวิจัยของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ในปี 2558 ซัปพลายพื้นที่สำนักงานมีจำนวนรวม 4,671,593 ตร.ม. ซึ่งเพิ่มขึ้น 96,405 ตร.ม. หรือคิดเป็น 2.1% จากปีก่อน ซัปพลายที่เพิ่มขึ้นมานี้มาจากการแล้วเสร็จของอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ (AIA Sathorn Tower) อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ (Major Tower) และอาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ (Bhiraj Tower at EmQuartier) อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ และอาคารภิรัช ทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ ตั้งอยู่แถบสุขุมวิทโซนใน ส่วนอาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ตั้งอยู่บนถนนสาทร ใกล้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ในปี 2558 จำนวน 53% จากจำนวนซัปพลายทั้งหมดที่มีตั้งอยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ และ 47% มีที่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ
ในปี 2559 จำนวนซัปพลายพื้นที่สำนักงานคาดว่าจะมีประมาณ 152,960 ตร.ม. รวมจาก 5 โครงการสำนักงาน โดยประมาณ 87% มีที่ตั้งอยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ และมีเพียง 13% ที่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ หลังจากปี 2560 คาดว่าพื้นที่สำนักงานใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ เช่น บางนา สุขุมวิทโซนนอก รัชดาภิเษก ฯลฯ
ด้านดีมานด์ รายงานวิจัย พบว่า พื้นที่เช่ามีจำนวนรวมอยู่ที่ 4,334,324 ตร.ม. แสดงอัตราการเช่าอยู่ที่ 92.8% และเพิ่มขึ้น 1.3% จากปีก่อน การเติบโตสูงสุดในช่วงท้ายปี 2558 พบในสำนักงานเกรด A นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจเพิ่มขึ้น 8.2% แบบปีต่อปี อย่างไรก็ตาม สำนักงานเกรด A ในย่านศูนย์กลางธุรกิจมีอัตราการเช่าสูงสุดที่ 94.3% พร้อมยังเผชิญต่ออัตราการเติบโตปีต่อปีที่ลดลงต่ำสุดที่ 0.4% ซึ่งไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลย เพราะอัตราการเช่าที่สูงนี้ทำให้ไม่สามารถเติบโตได้มากนัก โดยรวมแล้วตลาดพื้นที่สำนักงานมีอัตราการเติบโตที่ 2% เป็นประจำทุกปี
ในปี 2558 อัตราการดูดซับพื้นที่สำนักงานอยู่ที่ประมาณ 149,301 ตร.ม. มีจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554 นอกจากนี้ อัตราการดูดทรัพย์มากกว่าอุปทานใหม่ที่มีพื้นที่รวมเพียงแค่ 96,405 ตร.ม. อัตราการดูดทรัพย์ของพื้นที่สำนักงานได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2554 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยจำนวนที่จำกัดของจำนวนซัปพลายพื้นที่สำนักงานในย่านศูนย์กลางธุรกิจ เราคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการดูดซับพื้นที่สำนักงานจากในย่านศูนย์กลางธุรกิจไปสู่พื้นที่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ เพราะในหลายๆ พื้นที่เหล่านี้ได้รับความสะดวกจากระบบขนส่งมวลชน ทำให้การเดินทางไปสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจเป็นไปได้ง่าย นอกจากนี้ หากดูจากอัตราการดูดซับ และอุปทานใหม่เราสามารถมองเห็นปัญหาการขาดแคลนด้านซัปพลายในช่วง 2 ปีข้างหน้า ตามข้อมูลผลวิจัยของบริษัทไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย
ในปี 2558 อัตราค่าเช่าโดยเฉลี่ยของสำนักงานเกรด A ทั้งใน และนอกพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ แสดงอัตราการเติบโตจากปีก่อนสูงถึงประมาณ 9-10% สำหรับสำนักงานเกรด A อัตราค่าเช่าในย่านศูนย์กลางธุรกิจสูงสุดอยู่ที่ 937 บาทต่อ ตร.ม. ในขณะที่อัตราค่าเช่านอกเขตศูนย์กลางธุรกิจสูงสุดอยู่ที่ 723 บาทต่อ ตร.ม. ส่วนอัตราค่าเช่าโดยเฉลี่ยของสำนักงานเกรด B ทั้งใน และนอกพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจมีอัตราลดลง และมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2554 โดยมีการเพิ่มขึ้น 5.3% ของอัตราค่าเช่าในย่านศูนย์กลางธุรกิจ และ 4.0% นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจ การสำรวจราคาตั้งให้เช่าบนหลายๆ ถนนสายหลัก พื้นที่ที่มีราคาให้เช่าสูงที่สุดอยู่ในย่านเพลินจิต และถนนสุขุมวิทซอยต้นๆ เราคาดว่าแนวโน้มของอัตราค่าเช่าจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากอัตราดูดซับยังมีสูงขึ้นมากกว่าอุปทานใหม่
ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เชื่อมั่นว่า อัตราเติบโตที่ชะลอตัวลงตามภาพรวมทางเศรษฐกิจไทยยังไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการเช่าพื้นที่สำนักงาน ส่วนใหญ่เนื่องมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของภาคธุรกิจไอที (IT) ที่บริษัทย่อยของบริษัทผู้ทำธุรกิจ e-commerce รายใหญ่ได้ทำการเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ในหลายๆ อาคาร เช่น อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ (AIA Capital Center) และอาคารไซเบอร์เวิลด์ ทาวเวอร์ (Cyber World Tower) มีที่ตั้งบนถนนรัชดาภิเษก และอาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ (Empire Tower) มีที่ตั้งบนถนนสาทร การเติบโตในภาคธุรกิจนี้ยังได้สร้างเทรนด์ใหม่แก่ธุรกิจขนาดเล็กที่พึ่งเริ่มต้น โดยทำการย้ายออกจากอาคารห้องแถวไปในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มประโยชน์ด้านการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร และสะดวกต่อการเข้าถึงได้โดยสถานีขนส่งมวลชน