หากมีการติดตามการเคลื่อนไหวของจีนอย่างต่อเนื่องจะเห็นได้ว่า รัฐบาลแดนมังกรมีความพยายามที่จะผลักดัน “เงินหยวน” ให้ขึ้นมามีบทบาทในตลาดการเงินโลกมาโดยตลอด นอกจากจะได้ถูกบรรจุเข้ามาเป็นหนึ่งในตะกร้าเงินของไอเอ็มเอฟแล้ว ล่าสุด จีนยังได้จัดตั้งตลาดค้าทองคำที่ใช้เงินหยวนในการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว
ก้าวสำคัญครั้งนี้เป็นความตั้งใจที่จะผลักดันตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ให้ขึ้นมามีบทบาทเทียบเท่ากับตลาดนิวยอร์ก และลอนดอน แม้ปัจจุบันจะมีฮ่องกงเป็นตลาดหลักในเอเชีย แต่อิทธิพลต่อราคายังไม่เทียบเท่ากับตลาดฝั่งตะวันตก ขณะที่ชาติในเอเชียทั้งจีน และอินเดียจะเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคทองคำ 2 อันดับแรกของโลก
เกมนี้นอกเหนือจากธนาคารจีน อย่าง แบงก์ ออฟ ไชน่า และไอซีบีซี จะมีสวนร่วมแล้ว ยังมีธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และเอเอ็นซีของออสเตรเลียเข้ามาร่วมด้วย แสดงถึงการยอมรับในเงินหยวนที่มีมากขึ้นของสถาบันการเงินฝั่งตะวันตก
การจัดตั้งตลาดทองคำ อาจมีเป้าหมายที่ไกลกว่านั้นในการที่จะผลักดันทองคำให้กลายเป็นส่วนสำคัญของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีน จากปัจจุบัน สัดส่วนหลักยังคงเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่การที่จีนเข้าซื้อทองคำมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ย่อมแสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมพร้อมที่จะใช้ทองคำมาอ้างอิงในทุนสำรองระหว่างประเทศ และเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ ถึงขนาดมีข่าวลือช่วงต้นเดือนเมษายนว่า จีนจะเลิกอ้างอิงทุนสำรองระหว่างประเทศกับเงินดอลลาร์สหรัฐด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ธนาคาร AIIB ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย แต่มีจำนวนสมาชิกจากชาติที่ไม่ได้อยู่ในเอเชียด้วยเช่นชาติจากยุโรปตะวันออกซึ่งจีนได้เข้าไปสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า เงินหยวนของจีนกำลังได้รับการยอมรับมากขึ้น
หากมองย้อนกลับไปถึงแผนการต่างๆ ในการผลักดันเงินหยวนเข้าสู่ระบบตลาดการเงินโลก ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งตลาดตราสารอนุพันธ์ และสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ การเชื่อมโยงตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง การเซ็นสัญญาค้าขายเงินหยวนโดยตรงกับคู่ค้าต่างประเทศ ฯลฯ ไม่นับรวมเงินหยวนที่กระจายออกไปทั่วโลกผ่านนักท่องเที่ยวจีนซึ่งตอนนี้กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของแบรนด์เนมชื่อดังในยุโรป (ขนาดนักท่องเที่ยวจีนที่ออกไปเที่ยวต่างประเทศยังมีแค่ 20% ของประชากร) รวมถึงการนำเงินไปลงทุน และซื้อกิจการในต่างประเทศของกลุ่มทุนต่างๆ เห็นได้ว่าเงินหยวนกำลังมีอิทธิพลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว
การที่ตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า รากฐานการเงินของจีนมีความแข็งแกร่งเพียงใด เห็นได้จากมาตรการอุดหนุนตลาดการเงินในประเทศ เช่น ตั้งกองทุนเข้าช้อนซื้อหุ้น นโยบายผ่อนคลายต่างๆ เห็นได้ว่าจีนมีหน้าตักพอสมควรในการผลักดันเงินหยวนสู่ระดับสากล
แม้คู่แข่งสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกาจะไม่ยอมให้เงินหยวนเข้ามามีบทบาทมากไปกว่านี้ โดยอาศัยแต้มต่อที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นสวนทางกับจีนที่ชะลอตัวลง แต่หากวัดที่โอกาสแล้ว จีนยังมีช่องว่างให้ขยายตัวได้อีกจากการถือไพ่ในการเป็นทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ ผู้ส่งออกรายใหญ่ รวมถึงเป็นผู้บริโภครายใหญ่ ขณะที่สหรัฐอเมริกาเป็นได้เพียงแค่ผู้บริโภคเท่านั้น (การผลิตถูกย้ายไปที่จีนหมดแล้ว) ต้องจับตาดูว่าการขับเคี่ยวของ 2 มหาอำนาจจะจบลงอย่างไร
SuperTrader Team
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง