รอยเตอร์ส - ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ (Foreign exchange reserves) ของจีน ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้ปรับลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีก่อน ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการไหลออกของเงินทุน ที่กำลังฉุดค่าเงินหยวนให้ต่ำลงในรอบหลายปี
อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน หรือธนาคารกลางจีน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) ระบุว่า ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศได้ลดลง 512,660 ล้านดอลลาร์ เหลืออยู่ที่ 3.33 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี พ.ศ.2558 ที่ผ่านมา
ทุนสำรองฯ ของจีน ได้ดำดิ่งลง 107,900 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนธ.ค. ซึ่งนับเป็นการปรับลดมากที่สุดในสถิติรายเดือน และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยบรรดาเศรษฐกรที่รอยเตอร์สเคยสัมภาษณ์ ได้ประเมินทุนสำรองฯ ปีก่อนของจีนไว้ที่ 3.40 ล้านล้านดอลลาร์
เกือบสองในสามของปริมาณทุนสำรองฯ ที่ลดลง เกิดขึ้นระหว่างเดือนส.ค. และเดือนธ.ค. ชี้ให้เห็นความพยายามของธนาคารกลางจีน ที่จะสร้างความมั่นคงแก่สกุลเงินหยวน หลังจากมีการปรับลดค่าเงินหยวนครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ซึ่งช็อคตลาดการเงินโลก
ทั่วโลกต่างคำถามเกี่ยวกับนโยบายการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของจีน ที่ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้งตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนให้อยู่ ณ จุดต่ำสุดในรอบเกือบห้าปี เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ม.ค.) จนทำให้เงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว
“การลดลงอย่างฮวบฮาบของทุนสำรองฯ บ่งชี้แรงกดดันจากการไหลออกของเงินทุนในประเทศจีน ที่กำลังขยายตัวมากขึ้น” นายหลี่ ฮุ้ยหย่ง นักเศรษฐศาสตร์จากเซินอิ่น แอนด์ วั่นกั๋ว ซีเคียวริตี้ส์ (Shenyin & Wanguo Securities) กล่าว แต่หลี่เชื่อว่าธนาคารกลางจีนยังคงมีมาตรการเพียงพอจะปกป้องเงินหยวน
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์อีกไม่น้อยเป็นห่วงการลดลงของทุนสำรองฯ ของจีน เนื่องจากธนาคารกลางจีนจำเป็นต้องขายเงินดอลลาร์ และทุ่มซื้อเงินหยวนคืนมา เพื่อสนับสนุนค่าเงินท้องถิ่น ทำให้เกืดการดูดซับสภาพคล่องของระบบการธนาคารจีนในปีที่ผ่านมา
“สิ่งที่เกิดขึ้นเผยให้เห็นว่า การแทรกแซงจากรัฐบาลจีนไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาว ซึ่งจะนำไปสู่การลดค่าเงินหยวนเพิ่มอีกในสองสามวันข้างหน้า” เชสเตอร์ เลียว นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท ฟอร์แคส พีทีอี (Forecast Pte Ltd) ในสิงคโปร์กล่าว
ข้อมูลของธนาคารกลางจีนระบุว่า ทุนสำรองฯ ได้ลดลงสะสม 662.85 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนธ.ค. หรือคิดเป็นร้อยละ 16.6 นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. พ.ศ.2557 ซึ่งทุนสำรองฯ พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 3.99 ล้านล้านดอลลาร์
ด้านปริมาณทองคำสำรองของจีนอยู่ที่ 56.66 ล้านออนซ์ คิดเป็นมูลค่า 60.19 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจาก 56.05 ล้านออนซ์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 59.52 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นเดือนพ.ย.
ส่วนสินทรัพย์ส่งสมทบกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ของจีน อยู่ที่ 4.55 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 4.60 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนพ.ย. โดยจีนถือครองสิทธิพิเศษถอนเงิน (Special Drawing Rights) ของไอเอ็มเอฟ ณ สิ้นเดือนธ.ค. ที่ 10.28 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มจาก 10.18 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้เปลี่ยนการรายงานทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ จากแบบรายไตรมาสไปเป็นแบบรายเดือน หลังจากรับเอามาตรฐานการเผยแพร่ข้อมูลระดับสูง (Special Data Dissemination Standard) ของไอเอ็มเอฟมาปรับใช้