เอเจนซี--กลุ่มธนาคารจีนปล่อยเงินกู้ระลอกล่าสุดระหว่างเดือนม.ค. 2.51 ล้านล้านหยวนหยวน เพิ่มเกือบสามเท่าของเดือนก่อนหน้า เพื่อช่วยอัดฉีดเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวครั้งประวัติการณ์
โดยตัวเลขยอดปล่อยกู้นี้สูงเกินคาดการณ์ ทั้งนี้จากรายงานสำรวจความคิดเห็นกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์จัดทำโดยรอยเตอร์สระบุการคาดการณ์ว่ายอดปล่อยสินเชื่อก้อนใหม่ในเดือนม.ค.ของจีนจะสูงทำสถิติในรอบ 7 ปี ที่ระดับ 1.8 ล้านล้านหยวน มากเป็นสามเท่าของเดือนธ.ค. ซึ่งมียอดปล่อยกู้ เท่ากับ 597,800 ล้านหยวน
จากตัวเลขธนาคารกลางจีนเผยในวันนี้(16 ก.พ.) ระหว่างเดือนม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มธนาคารในจีนได้ปล่อยกู้ รวมมูลค่าสูงถึง 2.51 ล้านล้านหยวน ซึ่งเพิ่มเกือบสามเท่าของการปล่อยกู้ในเดือนก่อนหน้า และยังทุบกระจุยสถิติการปล่อยกู้ในครั้งก่อนคือการอัดฉีดสินเชื่อ 1.89 ล้านล้านหยวนในเดือนมี.ค. ปีพ.ศ. 2552 สำหรับแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งมโหฬารเพื่อสู้วิกฤตการเงินในขณะนั้น
การอัดฉีดสินเชื่อก้อนมหึมาภายในเดือนเดียวและทำสถิติใหม่ล่าสุดนี้ เกิดขึ้นขณะที่เศรษฐกิจมังกรที่มีขนาดใหญ่อันดับสองของโลกกำลังตกอยู่ในสภาพชะลอตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราขยายแค่ 6.9 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว (2558) ซึ่งถือว่าตกต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี
ขณะเดียวความเสี่ยงเกิดหนี้เน่าก็ปรากฏให้เห็นๆอย่างน่าวิตก การปล่อยกู้จากแบงค์ที่หละหลอม ก็ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่อ่อนค่าอยู่ แม้ใน 2-3 วันมานี้มีสัญญาณว่าสกุลเงินหยวนจะอยู่ในภาวะมั่นคงแล้วก็ตาม
Kyle Bass ผู้ก่อตั้ง Hayman Capital Management เตือนกลุ่มนักลงทุนในสัปดาห์ที่แล้วว่า “การขยายสินเชื่ออย่างรวดเร็วในระบบธนาคารจีน จะก่อหนี้เสียตามมา และทำให้ต้องอัดฉีดทุนให้แก่กลุ่มธนาคารจีน อีกทั้งสร้างแรงกดดันต่อเงินหยวน
Hayman Capital Management ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของสหรัฐ เตือนว่าระบบธนาคารจีนจะขาดทุน “กว่า 400 เปอร์เซ็นต์ แซงหน้ายอดขาดทุนของกลุ่มธนาคารมะกันในช่วงวิกฤตซับไพร์ม
กลุ่มธนาคารจีนจะสูญเหยียบ 3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐของอัตราหนี้สินต่อทุน (equity) หากมีการสูญเสียสินทรัพย์ในระบบธนาคาร 10 เปอร์เซ็นต์
จากข้อมูลหน่วยงานรัฐปลายปีที่แล้ว กลุ่มธนาคารปล่อยกู้จีนมีหนี้ที่ไม่ก่อรายได้ หรือหนี้เสีย ในอัตราสูงที่สุดนับจากเดือนมิ.ย. 2552
คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารจีน ระบุในวันจันทร์ (15 ก.พ.) ว่า 1.67 เปอร์เซนต์ของสินเชื่อในปลายปี เป็นหนี้เน่า โดยมีอัตราสูงจากระดับ 1.25 เปอร์เซ็นต์ของเมื่อปีที่แล้ว
ในแง่ของมูลค่า การสั่งสมปัญหาหนี้เน่าของธนาคารจีน ณ ปลายปี 2558 นั้น ทุบสถิติสูงในรอบ 10 ปี
ขณะที่ทางธนาคารประชาชนจีน ซึ่งเป็นธนาคารกลาง ก็แสดงท่าทีเป็นห่วงการปล่อยกู้ภายในที่สะพัดจะกระทบอัตราแลกเปลี่ยนหยวน โดยในรายงานนโยบายการเงินประจำไตรมาสฉบับล่าสุดของแบงค์ชาติมังกร ระบุว่าธนาคารกลางยังลังเลที่จะใช้มาตรการผ่อนปรนการเงินมากเกินซึ่งจะกระทบเสถียรภาพเงินหยวน
การปรับลดอัตราเงินสดสำรองของธนาคาร อาจทำให้สกุลเงินท้องถิ่นอ่อนค่าลง กระตุ้นเงินทุนไหลออก และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศหดหาย
