สำนักงาน ก.ล.ต.เตือนถือหุ้น “ตะวันออกพาณิชย์ลิสซิ่ง” ศึกษาข้อมูลการออกหุ้นเพิ่มทุนให้ PP ในราคาขายที่ต่ำกว่าราคาตลาด และผ่อนผันทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ขอให้ผู้ถือหุ้นบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ECL) ศึกษาข้อมูลการออกหุ้นเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ในราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าราคาตลาด และผ่อนผันทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน พร้อมเตือนให้ไปใช้สิทธิในการประชุมสามัญ ในวันที่ 26 เมษายน 2559
โดย ECL จะเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ออกหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 25.50% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด ด้วยการเสนอขายแบบ PP ให้แก่ บริษัท Premium Financial Services จำกัด (PFS) ในราคาหุ้นละ 1.54 บาท รวมมูลค่าประมาณ 313.52 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาด 24.14% พร้อมกับขอให้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการผ่อนผันให้ PFS ไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ECL ซึ่งคณะกรรมการ ECL เห็นว่า การทำรายการจะสามารถชำระเงินกู้ทั้งหมด และช่วยขยายกิจการได้
ทั้งนี้ PFS และ ECL ได้ตกลงทำสัญญาร่วมมือทางธุรกิจเป็นเวลา 3 ปี โดย ECL จะต้องจ่ายค่าตอบแทนเดือนละ 600,000 บาท หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายรวม 21.6 ล้านบาท ซึ่งตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต.การทำรายการข้างต้นถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) มีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติรายการ เนื่องจากราคาเสนอขายหุ้นให้ PFS ต่ำกว่าราคายุติธรรมค่อนข้างมาก อาจเข้าข่ายเป็นการจ่ายค่าบริการแก่ผู้ให้บริการโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ (Share-based Payment) และเมื่อขายหุ้น PP นี้แล้วจะทำให้ราคาหุ้น ECL ลดลงจากราคาตลาดอีกด้วย แม้ว่าภาพรวมของเงื่อนไข และความจำเป็นในด้านประโยชน์ และโอกาสทางธุรกิจมีความสมเหตุสมผล
ก.ล.ต.จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลโดยละเอียด และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 26 เมษายน 2559 เพื่อรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมกับซักถามผู้บริหารบริษัทถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับประกอบการตัดสินใจด้วย
อนึ่ง รายการเสนอขายหุ้น PP ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมมีสิทธิออกเสียงคัดค้านการนำเสนอวาระขายหุ้น PP ได้ ด้วยจำนวนเสียงตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไปเช่นกัน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ขอให้ผู้ถือหุ้นบริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ECL) ศึกษาข้อมูลการออกหุ้นเพิ่มทุนแก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ในราคาเสนอขายที่ต่ำกว่าราคาตลาด และผ่อนผันทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน พร้อมเตือนให้ไปใช้สิทธิในการประชุมสามัญ ในวันที่ 26 เมษายน 2559
โดย ECL จะเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ออกหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 25.50% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมด ด้วยการเสนอขายแบบ PP ให้แก่ บริษัท Premium Financial Services จำกัด (PFS) ในราคาหุ้นละ 1.54 บาท รวมมูลค่าประมาณ 313.52 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาตลาด 24.14% พร้อมกับขอให้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการผ่อนผันให้ PFS ไม่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ECL ซึ่งคณะกรรมการ ECL เห็นว่า การทำรายการจะสามารถชำระเงินกู้ทั้งหมด และช่วยขยายกิจการได้
ทั้งนี้ PFS และ ECL ได้ตกลงทำสัญญาร่วมมือทางธุรกิจเป็นเวลา 3 ปี โดย ECL จะต้องจ่ายค่าตอบแทนเดือนละ 600,000 บาท หรือคิดเป็นค่าใช้จ่ายรวม 21.6 ล้านบาท ซึ่งตามเกณฑ์ของ ก.ล.ต.การทำรายการข้างต้นถือเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน
อย่างไรก็ดี ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) มีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติรายการ เนื่องจากราคาเสนอขายหุ้นให้ PFS ต่ำกว่าราคายุติธรรมค่อนข้างมาก อาจเข้าข่ายเป็นการจ่ายค่าบริการแก่ผู้ให้บริการโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ (Share-based Payment) และเมื่อขายหุ้น PP นี้แล้วจะทำให้ราคาหุ้น ECL ลดลงจากราคาตลาดอีกด้วย แม้ว่าภาพรวมของเงื่อนไข และความจำเป็นในด้านประโยชน์ และโอกาสทางธุรกิจมีความสมเหตุสมผล
ก.ล.ต.จึงขอให้ผู้ถือหุ้นศึกษาข้อมูลโดยละเอียด และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 26 เมษายน 2559 เพื่อรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมกับซักถามผู้บริหารบริษัทถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนสำหรับประกอบการตัดสินใจด้วย
อนึ่ง รายการเสนอขายหุ้น PP ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุม และมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมมีสิทธิออกเสียงคัดค้านการนำเสนอวาระขายหุ้น PP ได้ ด้วยจำนวนเสียงตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไปเช่นกัน