แม้การเจรจาล่าสุดของชาติผู้ผลิตน้ำมันที่โดฮา ประเทศกาตาร์ จบลงอย่างไม่มีข้อสรุปในการตรึงกำลังผลิตน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาถูกเทขายอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มีบทวิจัยที่น่าสนใจถึงโอกาสที่น้ำมันจะกลับมาเป็นขาขึ้นรอบ Super Cycle ได้ในอีกครั้งในปี ค.ศ.2030-2535
บริษัทที่ปรึกษาการลงทุน แซนฟอร์ด แบร์สเติร์น ได้ออกบทวิจัยถึงแนวโน้มราคาน้ำมันในอนาคตว่า กลุ่มประเทศ Emerging Market จะเป็นแรงผลักดันสำคัญของการบริโภคน้ำมัน โดยจะมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น 1.4% ต่อปี จนถึงปี 2020 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าทศวรรษก่อน และในช่วงปี 2016-2020 ปริมาณการใช้น้ำมันเฉลี่ยของโลกจะเติบโตขึ้นมากกว่าช่วงปี 2011-2015
คาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันของโลกซึ่งถูกผลักดันโดยกลุ่มประเทศเกิดใหม่จะอยู่ที่ 94.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในสิ้นปีนี้ และจะแตะ 100 ล้านบาร์เรลในปี 2020 และจะอยู่ที่ 108 ล้านบาร์เรลในปี 2035 ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วจะมีความต้องการน้ำมันที่ลดลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนไปใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะโตชะลอตัวมากกว่าประเทศเกิดใหม่
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาน้ำมันจะมีโอกาสเป็นขาขึ้นรอบใหญ่อีกครั้ง แต่ก็จะเป็นเพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะท้ายที่สุดแล้วเมื่อพลังงานทดแทนต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีอย่างรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีสัดส่วนในประเทศเกิดใหม่มากขึ้น ความต้องการน้ำมันจากฟอสซิลจะน้อยลง ราคาน้ำมันก็จะปรับฐานลงอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปดู Super Cycle ขาขึ้นของน้ำมัน 2 ครั้งที่ผ่านมาในช่วงปี 1970 และช่วงปี 2007 มีสิ่งหนึ่งที่คล้ายคลึงกัน คือ เกิดขึ้นจากฝั่งความต้องการ (Demand) ที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น เศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว จำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น แต่เวลาที่ราคาน้ำมันปรับฐานรุนแรงหลังจากขาขึ้นรอบใหญ่มักจะเกิดจากฝั่งการผลิต (Supply) เนื่องจากช่วงเวลาที่เป็นขาขึ้น และมีความต้องการน้ำมันเข้ามามักจะเกิดการเร่งผลิต เช่น ไปหาแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ ทำให้ Supply เกินความต้องการในที่สุด และเป็นวัฏจักรเช่นนี้ทุกครั้ง
หากมองในแง่ของปีที่เกิดวงจรขาขึ้นของน้ำมันจะมีระยะห่างประมาณ 30 ปี มีความเป็นไปได้สูงว่าภายในปี 2030-2535 ราคาน้ำมันน่าจะเป็นวงจรขาขึ้นรอบใหญ่อีกครั้งได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเปลี่ยนแปลงของวงจรเศรษฐกิจมีรอบหมุนที่เร็วขึ้น ตัวเลขจึงอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
หากนำปรัชญาการลงทุนมาอธิบายแนวโน้มของราคาน้ำมัน เห็นได้ว่า แนวโน้มของราคาสินทรัพย์ต่างๆ หนีไม่พ้นวัฏจักรของคำว่า เกิดขึ้น มีอยู่ และดับไป รวมถึงโลกนี้มีการปรับสมดุลของตัวเองตลอดเวลา สิ่งใดที่ไม่สะท้อนความเป็นจริง เช่น น้อยเกินไป มากเกินไป แพงเกินไป ถูกเกินไป ฯลฯ ธรรมชาติจะนำสมดุลกลับคืนมาทุกครั้ง ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหุ้นที่มีทั้งขาขึ้น ช่วงที่ปรับสมดุลและขาลง ถ้าเราเข้าใจในหลักการดังกล่าวก็จะช่วยให้อยู่รอดในตลาดได้ตลอดทั้งชีวิต
SuperTrader Team
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง