xs
xsm
sm
md
lg

แนวโน้มทองคำ สัปดาห์นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลง 6ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือคิดเป็น 0.48% ปิดที่ระดับ 1,233 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐจากแรงหนุนการเปิดเผยตัวเลขยอดส่งออกของจีนในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 18.7% เทียบเป็นรายปีซึ่งได้กระตุ้นกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ขณะเดียวกันข้อมูลเศรษฐกิจจีน + บริษัทเจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งทำให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำ
อย่างไรก็ตามราคาทองเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังสหรัฐเผยรายงานตัวเลขการผลิตและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลงในเดือนมี.ค. + รายงานดัชนี CPI ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนมี.ค.ทำให้คาดการณ์ว่าเฟด อาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ประธานธนาคารเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียและสาขาดัลลัสได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเฟดควรระวังเรื่องการกำหนดเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงแรงหลังการประชุมของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่เมืองโดฮาเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมาไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิตโดยจะมีการประชุมขึ้นอีกครั้งในเดือนมิ.ย.ซึ่งจะสร้างแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงานส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นซึ่งจะดึงดูดให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำ


แนวโน้มปรับตัวขึ้น/แนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค
ราคาทอง ฟื้นตัวเป็นแท่งเทียนสัญญาณบวก TWEEZER BOTTOM หลังปรับลงต่อเนื่อง 3 แท่งเทียน ขณะที่แนวแกว่งตัวหลักยังทรงตัวเหนือเส้นแนวรับขาขึ้นหลักได้ + ค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้ราคามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นทางเทคนิค แต่คาดว่าการขึ้นจะเป็นไปในกรอบแคบ เนื่องจากแรงกดดันของราคาที่อยู่ในช่วงพักตัวรวมถึงแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันยังกดดันอยู่ แนวรับ 1200 / 1195 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์  แนวต้าน 1265 / 1270 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์
 


กำลังโหลดความคิดเห็น