เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพุธ (13 เม.ย.) ขยับลงเล็กน้อยหลังสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันกำลังผลิตก็ลดลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกแข็งแกร่งจากรายงานผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ดีเกินคาดหมาย ซึ่งปัจจัยหลังนี้เองฉุดให้ทองคำปรับลดอย่างแรง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 41 เซ็นต์ ปิดที่ 41.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนลดลง 51 เซ็นต์ ปิดที่ 44.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เบื้องต้นตลาดขานรับรายงานประจำสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ซึ่งระบุในวันพุธ (13 เม.ย.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 6.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดหมายถึง 6 เท่า
อย่างไรก็ตาม ได้เกิดแรงต้านต่อราคาน้ำมัน จากตัวเลขคลังน้ำมันเบนซินสำรองที่ลดลง และกำลังผลิตในสหรัฐฯ ที่ลดลงต่ำกว่า 9 ล้านบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพุธ (13 เม.ย.) พุ่งขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ ตามหลังการเผยแพร่รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดหมายของเจพี มอร์แกน เชส ขณะที่นักลงทุนเพิกเฉยต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เฉื่อยชาในอเมริกา
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 187.03 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,908.28 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 20.70 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,082.42 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 75.33 จุด (1.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,947.42 จุด
เจพีมอร์แกน เชส เป็นตัวขับเคลื่อนดัชนีดาวโจนส์ ด้วยปิดบวก 4.2 เปอร์เซ็นต์ หลังรายงานมีผลกำไรต่อหุ้นที่ 1.35 ดอลลาร์ต่อหุ้น เหนือกว่าตลาดคาดหมายไว้ 9 เซ็นต์ ข้อมูลนี้ดันหุ้นธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆ ปรับขึ้น
ความเคลื่อนไหวบวกแรงของวอลล์สตรีทมีขึ้นแม้ว่าตัวเลขค้าปลีกเดือนมกราคมของสหรัฐฯ ลดลง 0.3 เปอร์เซ็นต์ และราคาผู้ผลิตลดลง 0.1 เปอร์เซ็นต์ สวนทางกับที่คาดหมายไว้ว่าจะปรับขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลการค้าของจีน ที่แสดงให้เห็นว่าตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้น 11.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม เป็น 160,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินความคาดหมายของจีน ผลักให้นักลงทุนเบือนหนีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และฉุดให้ทองคำในวันพุธ (13 เม.ย.) ปิดลบแรง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 12.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,248.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
