เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันพุ่งแรงในวันศุกร์ (8 เม.ย.) หลังพบสิ่งบ่งชี้ว่ากำลังผลิตสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ปัจจัยทางพลังงานช่วยพยุงวอลล์สตรีทปิดบวกเล็กน้อย ส่วนทองคำขยับขึ้น ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 41.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในวันศุกร์ (8 เม.ย.) มีสัญญาณกำลังผลิตที่ลดลงในอเมริกาเหนือ หลังพบแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ยังปฏิบัติการอยู่ในสหรัฐฯ และ แคนาดา ลดลงอีกหนึ่งสัปดาห์ โดยข้อมูลจากเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน พบแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ยังปฏิบัติการในสหรัฐฯ ลดลงเหลือแค่ 354 แท่น ลดลงจาก 760 แท่น เมื่อ 1 ปีก่อน
ข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำรายงานของรัฐบาลสหรัฐฯเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ที่ระบุว่า กำลังผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศอยู่เหนือระดับ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันเล็กน้อย หลังจากเมื่อ 1 ปีก่อน กำลังผลิตพุ่งขึ้นไปถึง 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ปัจจัยทางราคาพลังงาน ดันหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับภาคปิโตรเลียมปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และช่วยให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันศุกร์ (8 เม.ย.) แม้มีความกังวลต่อรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทต่าง ๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 35.00 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,576.96 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.69 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,047.60 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 2.32 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,850.69 จุด
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดันเหล่าผู้ผลิตปิโตรเลียมปรับขึ้นถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น เชฟรอน และ อนาดาร์โก ปิโตรเลียม ที่ปิดบวก 1.6 เปอร์เซ็นต์ และ 5.6 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บอกว่าตลาดอ่อนตัวลงในช่วงท้ายของการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุุนขายทำกำไรบางส่วน ก่อนถึงฤดูกาลเผยแพร่ผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ท่ามกลางความคาดหมายว่าจะออกมาน่าผิดหวัง
ความกังวลต่อรายงานผลประกอบการของบริษัท เช่นเดียวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำในวันศุกร์ (8 เม.ย.) ปรับขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์