เอเอฟพี - น้ำมันพุ่งแรงเกือบ 2 ดอลลาร์ในวันพุธ (6 เม.ย.) หลังพบคลังเชื้อเพลิงสำรองสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากและเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ ปัจจัยนี้ดันวอลล์สตรีทปิดบวกแข็งแกร่ง ขณะที่ทองคำขยับลงพอสมควร
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 37.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานกระทรวงพลังงานสหรัฐฯระบุว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลงถึง 4.9 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 เมษายน บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์มองว่ารายงานดังกล่าวที่มีออกมาตามหลังคลังน้ำมันดิบสำรองที่เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความผันผวนอย่างมากในตลาดพลังงาน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางราคาพลังงานนี้ส่งผลกระทบทางบวกต่อหุ้นกลุ่มปิโตรเลียม และดันตลาดห้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(6เม.ย.) ขยับขึ้นแรง ขณะเดียวกันก็ได้ปัจจัยหนุนจากคำยืนยันของเฟดว่าจะคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไป
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 122.73 จุด (0.64 เปอร์เซ็นต์) ปิด 17,716.05 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 21.49 จุด (1.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,066.66 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 76.78 จุด (1.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,920.72 จุด
เชฟรอน สมาชิกดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2.3 เปอร์เซ็นต์และอาปาเช ปิดบวก 5.1 เปอร์เซ็นต์ หลังราคาน้ำมันดีดตัวกว่าร้อยละ 5
นอกจากนี้แล้ววอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนจากรายงาน Minutes ของที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่าทางคณะกรรมการเห็นพ้องอย่างเป็นเอกฉันท์สนับสนุนมุมมองของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ว่าจำเป็นต้องคงดอกเบี้ยระดับต่ำต่อไปท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่เฉื่อยชา
ความเคลื่อนไหวขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งของทั้งราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐฯ กระตุ้นให้นักลงทุนเมินสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและส่งผลให้ทองคำในวันพุธ (6 เม.ย.) ปิดลบพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ลดลง 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,223.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์