น้ำมันพุ่งหลังพบกำลังผลิตมะกันลด หุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานจากคำแถลงเฟด

มาร์เก็ตวอตช์/เอเอฟพี - น้ำมันเมื่อวันพุธ (27 เม.ย.) ขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปีก่อน หลังพบกำลังผลิตสหรัฐฯ ลดลง ส่วนวอลล์สตรีทปิดผสมผสาน ขณะที่ทองคำตลาดโคเม็กซ์พุ่งสูงสุดในรอบสัปดาห์ แต่แกว่งตัวสู่แดนลบในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์หลังเฟดไม่ได้บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ของการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน ปีก่อน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ปีก่อน

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (อีไอเอ) รายงานในวันพุธ (27 เม.ย.) ว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 เมษายน เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งข้อมูลของอีไอเอระบุว่ากำลังผลิตรวมภายในประเทศลดลง 15,000 บาร์เรล เหลือ 8.938 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากระดับ 9.373 ล้านบาร์เรลต่อวันของเมื่อ 1 ปีก่อน และนับเป็นการลดลง 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

หุ้นแอปเปิลที่ดำดิ่งฉุดแนสแดคปิดลบในวันพุธ (27 เม.ย.) แต่ดาวโจนส์กับเอสแอนด์พี 500 ขยับขึ้น หลังเฟดให้มุมมองทางบวกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก

ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 51.23 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิด 18,041.55 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 3.45 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,095.15 จุด แนสแดคลดลง 25.14 จุด (0.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,863.14 จุด

หุ้นของแอปเปิลดิ่งลงกว่า 6.4 เปอร์เซ็นต์ หลังแถลงว่ายอดขายไอโฟนลดลงเป็นครั้งแรก และมีรายได้รายไตรมาสลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์กับเอสแอนด์พี 500 ปรับขึ้นหลังจากเฟดบ่งชี้ว่ามีความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกและภูมิทัศน์ทางการเงินน้อยลงกว่าช่วงระหว่างไตรมาสแรกของปี ขณะที่ราคาน้ำมันที่พุ่งแรงก็ช่วยดันหุ้นที่เชื่อมโยงกับภาคปิโตรเลียม

ด้านราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ในวันพุธ (27 เม.ย.) ปิดตลาดก่อนสิ้นสุดการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,250.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์แกว่งตัวลงไปอยู่ที่ราวๆ 1,247 ดอลลาร์ หลังถ้อยแถลงเฟดไม่ได้บ่งชี้ใดถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ณ ที่ประชุมหนต่อไปในเดือนมิถุนายน