สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บมจ.โรงพยาบาลราชธานี ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) version แรก เมื่อวันที่ 5 เม.ย.59 เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 74,999,599 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนที่ชำระแล้วทั้งหมด ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว
บริษัทมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้เพื่อใช้ขยายกิจการโรงพยาบาลราชธานี ขยายกิจการโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และลงทุนเพื่อซื้อ และ/หรือควบรวมกิจการอื่นๆ
บมจ.โรงพยาบาลราชธานี ดำเนินธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ ผ่านโรงพยาบาลราชธานีในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 52% ส่งผลให้บริษัท และบริษัทย่อยมีจำนวนเตียงผู้ป่วยภายใต้การบริหารงานรวม 353 เตียง ปัจจุบัน เปิดใช้งานจริง จำนวน 167 เตียง โดยบริษัทกำหนดเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในภาคกลาง ปัจจุบัน โรงพยาบาลราชธานี ได้รับการรับรองคุณภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว
บริษัท และบริษัทย่อยมีความสามารถในการให้บริการทางการแพทย์ ได้แก่ ศูนย์หัวใจ ศูนย์อุบัติเหตุฉุกเฉินและศัลยกรรมสมอง ศูนย์เฉพาะทางอื่นๆ ประกอบด้วย ศูนย์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ศูนย์ไตเทียม ศูนย์ตรวจสุขภาพ ศูนย์ทันตกรรม ศูนย์โรคกระดูกและข้อ ศูนย์สลายต้อกระจก คลินิกศัลยกรรม คลินิกอายุรกรรม คลินิก และบริการทางการแพทย์อื่นๆ รวมทั้งบริการด้านอาชีวเวชศาสตร์
กลุ่มลูกค้าของบริษัท แบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป และกลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ โดยในปี 58 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มลูกค้าทั่วไป 51% และกลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ 49% ซึ่งบริษัทมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วยการพัฒนาศักยภาพในการักษาพยาบาล โดยการเพิ่มจำนวนแพทย์ และพยาบาล รวมถึงขยายขอบเขตการรักษาโรคเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนสูง ส่วนลูกค้ากลุ่มสวัสดิการภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประกันสังคม บริษัทมีนโยบายมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการให้บริการให้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องต่อรายได้เหมาจ่ายที่ได้รับจากโครงการประกันสังคม
บริษัท และบริษัทย่อยมีแผนลงทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการลงทุนเครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ประเมินมูลค่าลงทุนที่ 60 ล้านบาท ปัจจุบัน อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ขาย คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 60 โครงการสร้างอาคารผู้ป่วยเพิ่มเติมของโรงพยาบาลราชธานี เป็นอาคาร 9 ชั้น มีเตียงให้บริการ 120 เตียง ประมาณการมูลค่าลงทุนราว 600 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มได้ในปี 60 และแล้วเสร็จในปี 62 รวมทั้งโครงการขยายพื้นที่ให้บริการของโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ ประมาณการมูลค่าการลงทุน 40 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 61 นอกจากนั้น บริษัทยังพร้อมเปิดโอกาสการพิจารณาลงทุนในทำเลอื่นที่มีศักยภาพในการเติบโต รวมทั้งเข้าซื้อกิจการโรงยาบาล หรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัท
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 58 รายได้รวมอยู่ที่ 1,034.91 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 957.72 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 63.77 ล้านบาท ลดลงจาก 84.83 ล้านบาทในปีก่อนหน้า ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 58 อยู่ที่ 1,075.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 800.57 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 275.12 ล้านบาท
ณ วันที่ 9 มี.ค.59 บริษัทมีทุนจดทะเบียนรวม 300 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 225,000,401 บาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย กลุ่มประสิทธิ์หิรัญ ถือหุ้น 73,526,382 หุ้น คิดเป็น 32.68% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 24.51% รองลงมาเป็นกลุ่มวุฒิกุลประพันธ์ ถือหุ้น 32,647,299 หุ้น คิดเป็น 14.51% หลังเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 10.88%
บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิภายหลังการหักภาษีเงินไดนิติบุคคล และจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ
