xs
xsm
sm
md
lg

นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยพรุ่งนี้แกว่งตัวขึ้นต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปิดตลาดหุ้นไทยวันแรกของเดือนกันยายนไปที่ 1,565.35 จุด เพิ่มขึ้น 3.72 จุด เปลี่ยนแปลง +0.24% มูลค่าการซื้อขาย 45,185.91 ล้านบาท โดยระหว่างวันแตะจุดสูงสุดได้ที่ 1,571.74 จุด และต่ำสุดที่ 1,565.08 จุด โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 833.12 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,505.08 ล้านบาท ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 96.78 ล้านบาท และนักลงรายย่อยขายสุทธิ 2,241.42 ล้านบาท

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้ SET Index ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศโดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,567-1,571 จุด โดยมีแรงซื้อเข้ามาหุ้นในกลุ่ม Bank และ Food พร้อมคาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีวันพรุ่งนี้ ว่า โดยภาพรวมตลาดค่อนข้างสดใส จึงยังคาดหวังดัชนีปรับขึ้นทดสอบ 1,600 จุด ในเดือนกันยายน จากประเด็นยกเลิกกฎอัยการศึก และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ รวมถึงความคาดหวัง ECB ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไรเชิงตั้งรับเมื่อราคาอ่อนตัว เพื่อลุ้นทดสอบ 1,590-1,600 จุด ส่วนพอร์ตกลางถึงยาว แนะนำ ใช้จังหวะอ่อนตัวของดัชนีเป็นโอกาสในการสะสมหุ้นนำตลาด เช่น ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต คาดการณ์ความเคลื่อนไหวดัชนีวันพรุ่งนี้ ยังคงมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,570 จุด อย่างต่อเนื่อง โดยอาจมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเริ่มรู้สึกว่าการลงทุนใน PE ระดับนี้ถือว่าราคาหุ้นบางตัวอยู่ในระดับสูง โดยดัชนีมีแนวรับที่ 1,550 จุด แนวต้าน 1,570-1,578 จุด

“ปัจจัยบวกที่เข้ามายังเป็นปัจจัยเดิม คือ ความคาดหวังแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจากรัฐบาล ดังนั้น นักลงทุนบางกลุ่มน่าจะเริ่มอึดอัดเพียงแต่ไม่มีใครกล้าขายหุ้นออกมา เนื่องจากหลายฝ่ายมองข้าม PE ปี 2557 ไปที่ปี 2558 แล้ว ดังนั้น หากขายออกมาก็กลัว “ตกขบวน” แต่การที่จะซื้อตามก็มองว่าราคาหุ้นหลายตัวสูงมากแล้ว”

นายอดิศักดิ์ มองว่า หากท้ายที่สุดคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่ยกเลิกกฎอัยการศึก ก็มิได้กระทบจิตวิทยาการลงทุนในตลาดทุนไทย เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เม็ดเงินจากกองทุนในประเทศ รวมถึงนักลงทุนรายย่อยก็สามารถผลักดันให้ดัชนีปรับฐานไต่ระดับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมา เม็ดเงินต่างชาติก็ไม่ได้เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว คือ หากสามารถยกเลิกกฎอัยการศึกจะถือเป็นการปลดล็อกทั้งภาคการท่องเที่ยว และตลาดทุนไทย ทำให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาครั้งใหญ่ทีเดียว เพราะภาพเศรษฐกิจไทยดีอยู่แล้ว แต่หากไม่ยกเลิกมองว่านักท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยกังวลน่าจะเข้ามาท่องเที่ยวบ้าง ส่วนตลาดทุนไทยก็เคลื่อนไหวด้วยเม็ดเงินในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง”
กำลังโหลดความคิดเห็น