หุ้นไทยปิดร่วง 10.63 จุด หลุดระดับ 1,400 โบรกฯ ยันไม่น่ากังวลมากนัก แม้จะจะมีแรงขายในกลุ่มบิ๊กแคป ชี้เป็นการย่ำฐานเพื่อรอเวลาแกว่งขึ้น พร้อมระบุ วอลุ่มบาง และสภาพคล่องในตลาดยังสูง ถือเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นในระยะต่อไป
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ธนชาต กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 มี.ค.) ค่อนข้างเงียบ หลังหลายตลาดหุ้นต่างประเทศปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday ขณะที่มีแรงขายนำออกมาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร คาดว่าจะเป็นแรงขายทำกำไรหลังจากราคาดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงต้นสัปดาห์ เช่นเดียวกับกลุ่มพลังงานที่ตอบรับราคาน้ำมันย่อตัวลง กดดันให้ดัชนีหลุดระดับ 1,400 จุดอีกครั้ง แต่มองว่าไม่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากมูลค่าซื้อขายค่อนข้างเบาบางเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้
ขณะที่ตลาดยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจากการคาดหวังว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า (28 มี.ค.-1 เม.ย.) จะพิจารณาโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แต่สิ่งที่ตลาดต้องการเห็นมากที่สุด คือ การประมูลโครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจริง เบื้องต้น คาดว่าหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์น่าจะมีความชัดเจนออกมาบ้าง
ปัจจัยดังกล่าวน่าจะยังเป็นประเด็นหนุนการขับเคลื่อนของดัชนีในระยะต่อไปได้ นอกเหนือปัจจัยจากสภาพคล่องในตลาดโลกที่มีอยู่มาก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนผันเงินมาลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) มากขึ้น สังเกตได้จากหน่วยลงทุนเหล่านี้มีสภาพคล่องค่อนข้างดี
“วันนี้ดัชนีหลุด 1,400 จุด แต่ไม่น่ากังวลมากนัก ตลาดยังเป็นการย่ำฐานรอเวลาแกว่งตัวขึ้น” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย มองว่า แนวโน้มการซื้อขายในสัปดาห์หน้าดัชนีจะมีแนวรับบริเวณ 1,390 จุด และแนวต้านที่ 1,410 และ 1,420 จุด ขณะที่ระดับแนวต้านที่ 1,430 จุด จะเป็นแนวต้านที่มีนัยสำคัญมากที่สุด โดยยังต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมัน ตัวเลขเศรษฐกิจในต่างประเทศที่จะมีผลต่อการปรับคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 1/59 ของบริษัทจดทะเบียน เนื่องจากที่เป็นช่วงสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสแรก
