ปีที่ผ่านมา ธีมการลงทุน ในกลุ่มอุตสาหกรรม พลังงานทดแทนดูเหมือนจะเป็นพระเอกสําหรับตลาดหุ้นไทย หุ้นที่มีข่าวเกี่ยวเนื่องกับพลังงานแทนไม่ว่าจะเป็นโครงการ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานขยะ มีราคาปรับตัวขึ้นมาหลายเท่า หุ้นบางตัวปรับตัวขึ้นมาจน ราคา พี/อี มากกว่า 500 และมีหุ้นหลายตัวในกลุ่มที่มี ราคาปรับขึ้นมามากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์โดยที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐาน
บรรดาผู้บริหาร นักวิเคราะห์ ออกมาเชียร์ให้นักลงทุนซื้อหุ้นเหล่านี้ทุกวัน โดยข้อมูลสนับสนุนก็คือจํานวนโครงการในอนาคต ที่บริษัทต่างๆเหล่านี้จะสามารถขายไฟให้กับทางการไฟฟ้า และมีรายรับที่มั่นคงตลอดอายุโครงการ โครงการลงทุนพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ข้อมูลต่างๆเหล่านี้เป็นข้อมูลชวนเคลิ้มให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้โดยไม่ได้สนใจถึงระดับราคาหรือข้อมูลที่แท้จริง
พอเวลาผ่านไปข้อมูลเริ่มกระจายออกมาว่าโครงการที่ ผู้บริหาร และ นักวิเคราะห์ต่างได้โฆษณาไว้นั้นไม่ได้มีส่วนใดใกล้กับความจริงเลย บริษัทพลังงานทดแทนต่างๆเหล่านี้ไม่ได้มีโครงการเพิ่มขึ้นมาเลย โครงการที่ประกาศว่าจะไปร่วมทุนถูกยกเลิกหมดโดยอ้างว่าที่ประชุมไม่อนุมัติโครงการที่อ้างว่าจะขายไฟได้ ก็ไม่ได้ตามที่ออกข่าวไป
ผลประกอบการทีประกาศว่าคาดว่าจะได้ก็ไม่ได้ตามที่ประกาศ และที่สําคัญผลกําไรที่ออกมาไม่ได้มีความใกล้เคี ยงเลยและในบางกรณีผลลัพท์ออกมากลับตาลปัตรเลยด้วยซํ้ าจากคาดการณ์ที่ว่าจะกําไรมหาศาลกลับออกมาเป็นขาดทุนบักโกรกราคาหุ้นตกมาแบบระเนระนาด หุ้นบางตัวราคาร่วงลงมาจากจุดสู งสุดมากกว่า 80 เปอร์เซนต์
ถ้าจะให้เชื่อคงจะให้ทําใจเชื่อกันได้ยากว่าเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องสุดวิสัยที่เกินการคาดเดาของบรรดาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทสื่อมืออาชีพ หรือนักวิเคราะห์หุ้นระดับพระกาฬของหลักทรัพย์ต่างๆ
การคาดการผิดคงไม่ใช้เรื่องแปลก แต่คาดการณ์ผิดแบบกลับหัวกลับหางหรือไม่ใกล้เคียงความจริงเลย โดยเฉพาะการคาดการณ์ผิดจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ผมอดตั้งคําถามไม่ได้ว่ามันเพราะอะไรกันแน่ ผู้บริหาร นักวิเคราะห์มีความสามารถตํ่าจึงวิเคราะห์ผิดแบบกลับตาลปัตร หรือรู้อยู่แล้วว่าข้อมูลต่างๆที่ ให้นั้นมันไม่จริงแต่ด็ก็ยังให้ ข่าวแบบนั้นเพราะมีเจตนาให้ส่งผลกลับราคาหุ้นในตลาด
แต่ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงจะเป็นเช่นไรเราคงปฎิเสธไม่ได้ว่านักลงทุนหุ้นในบ้านเรานั้นอยู่ ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออํานวยในการลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่ว่า ผู้บริหาร นักวิเคราะห์ไร้คุณภาพ หรือ ผู้บริหารหรือนักวิเคราะห์ ไร้จรรยาบรรณ ก็ล้วนแต่เป็นเหตุผลที่นักลงทุนไม่ควรประสบ
ตลาดหลักทรัพย์บ้านเราคงถูกปรามาสว่าเป็น ตลาดลักทรัพย์ ศูนย์รวมมิจฉาชีพทางเศรษฐกิจที่ คอยหลอกลวงนักลงทุนในตลาดหุ้นต่อไป ถ้าเรายังคงไม่มีการเข้มงวดกวดขันในเรื่องความสามารถและจรรยาบรรณโดยเฉพาะส่วนที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับธรรมาภิบาล
ท้ายนี้ขอฝากไปถึงหน่วยงานกำกับทั้ง ตลท. และ ก.ล.ต. ให้ช่วยเข้มงวดกวดขันเรื่องคุณภาพและจรรยาบรรณของผู้บริหารและนักวิเคราะห์ เพื่อไม่ให้มีการรวมกลุ่มเอาเปรียบนักลงทุนโดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนรายย่อย และหวังว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่ถูกเพิกเฉยละเลย จนนักลงทุนต้องตั้งคำถามว่าหน่วยงานกำกับอย่าง ตลท. ก.ล.ต. นั้นรู้เห็นกับความไม่ ชอบมาพากลต่างๆเหล่านี้ด้วยรึเปล่า
จอมยุทธอินทรี