xs
xsm
sm
md
lg

In Pics : กลับมาแล้วเทศกาล “วิวาห์หมู่” โบสถ์คริสต์เกาหลีใต้-อีเวนต์ใหญ่ตำรับนักบุญ “ซันเมียงมุน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี/MGROnline - หนุ่มสาวหลากเชื้อชาตินับพันๆ คู่เข้าร่วมพิธีสมรสหมู่ ซึ่งจัดโดยโบสถ์คริสต์แห่งความสามัคคี (Unification Church) ในเกาหลีใต้ โดยมีภริยาหม้ายของนักบุญ ซัน เมียง-มุน ผู้ก่อตั้งโบสถ์เป็นประธานในพิธี วันนี้ (20 ก.พ.)

พิธีสมรสหมู่ถูกจัดขึ้นที่เมืองกาพยอง (Gapyeong) ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของโบสถ์ โดยในปีนี้มีบ่าวสาวเข้าร่วมถึง 3,000 คู่จาก 62 ประเทศ แบ่งออกเป็นคู่สมรสใหม่ 1,000 คู่ และสามีภรรยาที่ผ่านการแต่งงานกันมาแล้วอีก 2,000 คู่

พิธีสมรสหมู่ซึ่งจัดขึ้นตามสนามกีฬาในร่มนับเป็นกิจกรรมใหญ่ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายที่สุดของโบสถ์คริสต์แห่งความสามัคคี ซึ่งก่อตั้งโดย มุน ในปี 1954

ฮัก จา ฮัน ภริยาหม้ายของ มุน เรียกร้องให้บรรดาสาธุชนร่วมแรงร่วมใจกันอย่างเต็มที่ เพื่อทำภารกิจในการสร้าง “สรวงสวรรค์บนพื้นโลก” ให้สำเร็จภายในปี 2020

เบลก แมทธิวส์ และ คีวา พาซ คู่รักชาวอเมริกันจากรัฐนอร์ทแคโรไลนาซึ่งอายุ 24 ปีเท่ากัน บอกว่า พวกเขาคบหากันมานานถึง 8 ปีตั้งแต่สมัยเรียนไฮสกูล

แมทธิวส์ ระบุว่า ตนอยากจะสัมผัส “ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับคนจำนวนมากๆ ที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน”

“ทุกคนที่นี่เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน” เขากล่าว

แมทธิวส์ และเจ้าสาวของเขามีแผนจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันต่อที่เกาะเชจู

นักบุญ ซัน เมียง-มุน เกิดในครอบครัวชาวไร่เมื่อปี 1920 ในดินแดนซึ่งเป็นเกาหลีเหนือปัจจุบัน และอ้างว่าได้รับการดลใจจากพระเยซูคริสต์ตั้งแต่อายุ 15

เมื่อถูกปฏิเสธจากโบสถ์โปรเตสแตนต์เกาหลี มุน จึงก่อตั้งโบสถ์แห่งความสามัคคีขึ้นในปี 1954 หลังสงครามเกาหลีสิ้นสุดลง ซึ่งปัจจุบันโบสถ์ของเขามีผู้ยอมรับนับถือทั่วโลกกว่า 3 ล้านคน ขณะที่นักวิจารณ์บางคนปรามาสโบสถ์แห่งนี้ว่าเป็นเพียงลัทธิล้างสมอง และเรียกผู้ที่ยอมรับนับถือว่าพวก “มูนีส์” (Moonies)

คำสอนของโบสถ์แห่งความสามัคคี หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สมาพันธ์ครอบครัวเพื่อสันติภาพและความสามัคคีในโลก (Family Federation for World Peace and Unification) มีพื้นฐานจากพระคัมภีร์ไบเบิล แต่ใช้การตีความที่แตกต่างออกไป และในเอกสารของโบสถ์ยังกล่าวถึง มุน ในฐานะ “บิดาที่แท้จริง” และเป็น “เมสสิอาห์เพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ”

โบสถ์คริสต์แห่งความสามัคคีเริ่มจัดพิธีสมรสหมู่ครั้งแรกในทศวรรษที่ 1960 โดยเริ่มจากหญิงชายเพียงไม่กี่คู่ ก่อนจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นหลักพันหลักหมื่น และกลายเป็นที่สนใจของสื่อทั่วโลก

เมื่อปี 1997 มีบ่าวสาวเข้าพิธีสมรสหมู่ที่กรุงวอชิงตันถึง 30,000 คู่ และอีก 2 ปีต่อมาก็มีหญิงชายถึง 21,000 คู่เข้าพิธีวิวาห์ซึ่งโบสถ์จัดขึ้นที่สนามกีฬาโอลิมปิกสเตเดียมในกรุงโซล

มุน จะเป็นผู้คัดเลือกและจับคู่บ่าวสาวด้วยตนเอง พร้อมกับสั่งสอนว่า ความรักแบบโรแมนติกคือบ่อเกิดแห่งความสำส่อนทางเพศ, คู่สามีภรรยาที่ไปกันไม่ได้ และปัญหาสังคมอื่นๆ

สาวกส่วนใหญ่ตัดสินใจแต่งงานหลังรู้จักกันได้ไม่กี่ชั่วโมง และ มุน ก็มักจะเลือกหญิงชายที่มาจากต่างวัฒนธรรม ต่างเชื้อชาติ ซึ่งหมายความว่าคู่สมรสส่วนใหญ่จะไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน

โบสถ์แห่งความสามัคคีเฟื่องฟูถึงขีดสุดในช่วงทศวรรษที่ 1970-80 และเริ่มนำเงินไปลงทุนในธุรกิจก่อสร้าง, จักรกลหนัก, การศึกษา, สื่อ และแม้กระทั่งตั้งทีมฟุตบอลอาชีพ

โบสถ์ของ มุน ยังมีหุ้นในบริษัทสื่อต่างประเทศอย่างหนังสือพิมพ์วอชิงตัน ไทม์ส และสำนักข่าวยูไนเต็ดเพรส อินเตอร์เนชันแนล นอกจากนี้ยังมีธุรกิจเกี่ยวกับการประมง และเปิดเครือข่ายร้านซูชิในสหรัฐฯ

ปี 1972 มุน ได้ย้ายไปพำนักในสหรัฐฯ และถูกตั้งข้อหาหลีกเลี่ยงภาษีในปี 1981 ซึ่งสาวกของเขายืนยันว่า เป็นเพียงความพยายามยัดเยียดข้อหาเพื่อขับไล่เขาออกนอกประเทศ

มุน ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลากว่า 1 ปี ก่อนจะกลับมายังเกาหลีใต้เมื่อปี 2006

ซัน เมียง-มุน ถึงแก่กรรมด้วยโรคปอดบวมเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2012 สิริอายุได้ 92 ปี






ซัน เมียง มุน และ ฮัก จา ฮัน ผู้เป็นภรรยา ประสานมือเพื่ออวยพรคู่บ่าวสาวในพิธีสมรสหมู่ของโบสถ์แห่งความสามัคคี ณ สนามกีฬากรุงโซล เมื่อปี 2002 (แฟ้มภาพ)

กำลังโหลดความคิดเห็น