รมว.คลัง ชี้หากเอกชนเดินหน้าลงทุนร่วมรัฐ เชื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ใน 2 ปี ด้านผู้ว่า ธปท. เผย กนง.พร้อมผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน หากเกิดภาวะ ศก.โลก-จีนแย่ลง
รายงานข่าวแจ้งว่าในงาน “SET100 ผนึกกำลังประชารัฐ” วันนี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนใน SET 100 เข้าสอบถามการดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง นายอภิศักดิ์ ตันติวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายใน 2 ปี เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลได้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่างๆ ทั้งมาตรการเร่งด่วน คือ การเติมเงินเข้าสู่ระบบให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ส่วนแผนในระยะยาวจะเน้นสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน โดยการเร่งดำเนินโครงการลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น และลงทุนตาม เพราะรัฐให้สิทธิประโยชน์แก่รัฐจำนวนมากแล้ว ดังนั้น จึงเชื่อว่าหากเอกชนให้ความร่วมมือเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้เร็ว
“การดำเนินนโยบายประชารัฐนั้นจุดประสงค์หลักคือ ต้องการให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าไปได้พร้อมๆ กัน โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้แข็งแกร่งขึ้น เพราะกลุ่มนี้มีแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสูง”
ขณะที่ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เห็นด้วยต่อโครงการประชารัฐของรัฐบาล ที่ทำให้ภาคธุรกิจ และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมแนะว่าโครงการประชารัฐจะมีความยั่งยืนนั้น ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีส่วนร่วมใน 4 ด้าน คือ
1.ต้องเสียสละผลประโยชน์ที่ได้บางส่วนมาสร้างประโยชน์ให้ประเทศ ทำให้เกิดการเรียนรู้ของสังคม หรือ Active Citizen 2.ต้องร่วมกันสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้นในสังคม โดยบริษัทขนาดใหญ่จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดความคลางแคลงในเรื่องการหาผลประโยชน์อย่างเดียว
3.ภาคธุรกิจควรเข้ามาส่งเสริมภาครัฐในการปฎิรูปการศึกษา การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และปัญหาหมอกควัน ที่รัฐยังทำให้ครบถ้วน และ 4.ต้องการให้เอกชนตระหนักถึงการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมอยู่ใน DNA ของทุกคน ซี่งหากทำได้จะทำให้ประเทศแข็งแกร่งมากขึ้น
ส่วนแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยนั้น นายวิรไท ยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญต่อความผันผวนทั้งด้านตลาดการเงิน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางของประเทศหลักของโลกที่แตกต่างกัน ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการ ธปท. ยังเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 3.1 สูงขึ้นจากปีก่อนที่ร้อยละ 2.8 เพราะไทยยังได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาครัฐ และท่องเที่ยว
สำหรับการดำเนินนโยบายการเงินในช่วง 2 ปีทีผ่านมา ธปท. ได้มีการดำเนินนโยบายผ่อนคลายดอกเบี้ยมาโดยตลอด แต่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุด ยังต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.50 เพื่อรักษาขีดความสามารถการดำเนินนโนบายการเงินที่มีเหลืออย่างจำกัด เพื่อเก็บไว้ใช้ยามที่ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนสูง ซึ่งทาง กนง.พร้อมดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้น หากมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีน และเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น
