ผู้จัดการรายวัน360 - ผู้ว่าธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญความผันผวนจากปัจจัยภายนอกประเทศตลอดทั้งปีนี้ ทำให้เงินบาทมีโอกาสเป็นได้ 2 ทิศทาง ระบุเศรษฐกิจโต 3-3.5%ไม่เลวร้าย เอ็นพีแอลและระดับหนี้ครัวเรือนไม่ลด แนะยกเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยรับมือ
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปาฐกถาหัวข้อ "แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน ธปท. ปี 2559"ว่า เริ่มต้นปีด้วยความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาดการเงินตลาดทุนโลก สร้างความกังวลใจให้กับธปท.ไม่น้อย แม้ว่าผลกระทบดังกล่าวจะมีผลต่อไทยไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายประเทศ ส่วนหนึ่งระบบเศรษฐกิจไทยมีกันชนที่เข้มแข็งในหลายด้าน อย่างไรก็ตามมองว่าตลอดทั้งปีนี้ความผันผวนดังกล่าวยังคงอยู่และมีโอกาสผันผวนเพิ่มขึ้น
"การยกเครื่องรถยนต์ของเราที่ค่อนข้างเก่าและอ่อนแรงมาเป็นเวลานาน การเดินทางของเราต้องเผชิญกับถนนที่เป็นหลุ่มเป็นบ่อมากขึ้น จึงต้องการรถยนต์ที่มีทั้งโช๊คอัพหรือระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีและต้องมีเครื่องยนต์ที่ดี สมรรถนะสูง เมื่อเข้าสู่ช่วงเส้นทางถนนที่ราบรื่นขึ้น หลุ่มบ่อน้อยลง รถของเราก็จะเร่งเครื่องได้เต็มที่ สามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่คนไทยได้อย่างยั่งยืน"ผู้ว่าการธปท.กล่าวและว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวระดับ 3-3.5% ถือว่าไม่เลวร้าย เมื่อเทียบกับศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ความผันผวนจากปัจจัยภายนอกมีผลต่อเศรษฐกิจไทยเป็นเรื่องหลัก ทำให้ความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ค่าเงินมีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง คือ อ่อนหรือแข็งค่า แต่ค่าเงินเยน ริงกิต และรูเปียผันผวนสูงกว่าค่าเงินบาทของไทยในขณะนี้ ทั้งนี้ ธปท.ได้รับมือหลายมิติทั้งการดำเนินนโยบายการเงินที่จะไม่สร้างอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหมาะสม การดูแลความผันผวนไม่ให้เป็นอุปสรรคภาคธุรกิจในระยะสั้น และสร้างความสมดุลเงินทุนไหลเข้า-ออก ซึ่งปีนี้จะมีการเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้ายมากขึ้นจะผ่อนคลายกฎแบบค่อยเป็นค่อยไปตามแผนเดิมกำหนดไว้
กรณีประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุภาวะเศรษฐกิจสหรัฐไม่แข็งแกร่งนัก รวมถึงแสดงความเป็นห่วงความผันผวนตลาดการเงินโลกนั้น ผู้ว่าการธปท.ยอมรับว่าฐานะการเงินของสหรัฐมีการตึงตัวมากขึ้นและมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกมากขึ้น แต่ยังไม่ปรับทิศนโยบาย เพราะตลาดแรงงานยังฟื้นตัวได้ดี แต่ตลาดมองงว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐคงจะชะลอออกไป ทำให้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยลดลงในการประชุมครั้งหน้าเดือนมี.ค.นี้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจและสถาบันการเงินฝั่งยุโรปที่มีปัญหา ธปท.กำลังติดตามและกังวลความสามารถชำระหนี้ของตราสารสถาบันการเงินที่มีปัญหา แต่เชื่อว่าเป็นแค่ช่วงสั้นและกระทบไทยไม่มาก
"ถ้าเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลให้เงินทุนไหลกลับมายังกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั้งไทยและภูมิภาคนี้มากขึ้น และถ้าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องจะมีเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น"
ระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 81.1%ล่าสุดในไตรมาส 3ของปีก่อน และยังไม่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งที่ผ่านมาเร่งปล่อยสินเชื่อครัวเรือนมาก ทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ยิ่งสร้างความเปราะบาง จากนี้ต่อไปเน้นปล่อยสินเชื่อครัวเรือนอย่างมีจำกัดมากเห็นได้จากการชะลอตัวสินเชื่อครัวเรือนและการบริโภคตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นมา อีกทั้งมาตรการภาครัฐไม่ได้ก่อหนี้ประชาชนทุกเรื่อง จึงต้องแยกประเภทให้ชัดเจน อย่างมาตรการเยียวยาช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถอยู่รอด แต่ไม่ใช่มาตรการให้ได้กำไรเกินควร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของหน้าที่รัฐช่วยเหลือ
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถชำระหนี้บางกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และครัวเรือนในภาคเกษตร ทำให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีแนวโน้มค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น ฉะนั้น การปรับโครงสร้างหนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ อย่างไรก็ตามเห็นว่าเศรษฐกิจต้องฟื้นตัวระดับหนึ่งก่อนถึงส่งผลให้เอ็นพีแอลลดลงได้ แต่ขณะนี้สถาบันการเงินไทยมีการกันสำรองสูง และเอ็นพีแอลปรับขึ้นเฉพาะบางกลุ่ม จึงเห็นว่ายังไม่สร้างปัญหาเสถียรภาพการเงินของประเทศนัก.
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปาฐกถาหัวข้อ "แนวโน้มเศรษฐกิจไทยและทิศทางการดำเนินนโยบายการเงิน ธปท. ปี 2559"ว่า เริ่มต้นปีด้วยความผันผวนอย่างรุนแรงของตลาดการเงินตลาดทุนโลก สร้างความกังวลใจให้กับธปท.ไม่น้อย แม้ว่าผลกระทบดังกล่าวจะมีผลต่อไทยไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หลายประเทศ ส่วนหนึ่งระบบเศรษฐกิจไทยมีกันชนที่เข้มแข็งในหลายด้าน อย่างไรก็ตามมองว่าตลอดทั้งปีนี้ความผันผวนดังกล่าวยังคงอยู่และมีโอกาสผันผวนเพิ่มขึ้น
"การยกเครื่องรถยนต์ของเราที่ค่อนข้างเก่าและอ่อนแรงมาเป็นเวลานาน การเดินทางของเราต้องเผชิญกับถนนที่เป็นหลุ่มเป็นบ่อมากขึ้น จึงต้องการรถยนต์ที่มีทั้งโช๊คอัพหรือระบบรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ดีและต้องมีเครื่องยนต์ที่ดี สมรรถนะสูง เมื่อเข้าสู่ช่วงเส้นทางถนนที่ราบรื่นขึ้น หลุ่มบ่อน้อยลง รถของเราก็จะเร่งเครื่องได้เต็มที่ สามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้แก่คนไทยได้อย่างยั่งยืน"ผู้ว่าการธปท.กล่าวและว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวระดับ 3-3.5% ถือว่าไม่เลวร้าย เมื่อเทียบกับศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ความผันผวนจากปัจจัยภายนอกมีผลต่อเศรษฐกิจไทยเป็นเรื่องหลัก ทำให้ความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ค่าเงินมีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทาง คือ อ่อนหรือแข็งค่า แต่ค่าเงินเยน ริงกิต และรูเปียผันผวนสูงกว่าค่าเงินบาทของไทยในขณะนี้ ทั้งนี้ ธปท.ได้รับมือหลายมิติทั้งการดำเนินนโยบายการเงินที่จะไม่สร้างอุปสรรคต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันมีอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหมาะสม การดูแลความผันผวนไม่ให้เป็นอุปสรรคภาคธุรกิจในระยะสั้น และสร้างความสมดุลเงินทุนไหลเข้า-ออก ซึ่งปีนี้จะมีการเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้ายมากขึ้นจะผ่อนคลายกฎแบบค่อยเป็นค่อยไปตามแผนเดิมกำหนดไว้
กรณีประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาระบุภาวะเศรษฐกิจสหรัฐไม่แข็งแกร่งนัก รวมถึงแสดงความเป็นห่วงความผันผวนตลาดการเงินโลกนั้น ผู้ว่าการธปท.ยอมรับว่าฐานะการเงินของสหรัฐมีการตึงตัวมากขึ้นและมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกมากขึ้น แต่ยังไม่ปรับทิศนโยบาย เพราะตลาดแรงงานยังฟื้นตัวได้ดี แต่ตลาดมองงว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐคงจะชะลอออกไป ทำให้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยลดลงในการประชุมครั้งหน้าเดือนมี.ค.นี้ ส่วนปัญหาเศรษฐกิจและสถาบันการเงินฝั่งยุโรปที่มีปัญหา ธปท.กำลังติดตามและกังวลความสามารถชำระหนี้ของตราสารสถาบันการเงินที่มีปัญหา แต่เชื่อว่าเป็นแค่ช่วงสั้นและกระทบไทยไม่มาก
"ถ้าเฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลให้เงินทุนไหลกลับมายังกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั้งไทยและภูมิภาคนี้มากขึ้น และถ้าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่องจะมีเงินทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น"
ระดับหนี้ครัวเรือนอยู่ที่ 81.1%ล่าสุดในไตรมาส 3ของปีก่อน และยังไม่มีแนวโน้มลดลง ซึ่งที่ผ่านมาเร่งปล่อยสินเชื่อครัวเรือนมาก ทำให้หนี้ครัวเรือนสูงขึ้น ยิ่งสร้างความเปราะบาง จากนี้ต่อไปเน้นปล่อยสินเชื่อครัวเรือนอย่างมีจำกัดมากเห็นได้จากการชะลอตัวสินเชื่อครัวเรือนและการบริโภคตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นมา อีกทั้งมาตรการภาครัฐไม่ได้ก่อหนี้ประชาชนทุกเรื่อง จึงต้องแยกประเภทให้ชัดเจน อย่างมาตรการเยียวยาช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถอยู่รอด แต่ไม่ใช่มาตรการให้ได้กำไรเกินควร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นของหน้าที่รัฐช่วยเหลือ
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไปอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถชำระหนี้บางกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และครัวเรือนในภาคเกษตร ทำให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มีแนวโน้มค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้น ฉะนั้น การปรับโครงสร้างหนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ อย่างไรก็ตามเห็นว่าเศรษฐกิจต้องฟื้นตัวระดับหนึ่งก่อนถึงส่งผลให้เอ็นพีแอลลดลงได้ แต่ขณะนี้สถาบันการเงินไทยมีการกันสำรองสูง และเอ็นพีแอลปรับขึ้นเฉพาะบางกลุ่ม จึงเห็นว่ายังไม่สร้างปัญหาเสถียรภาพการเงินของประเทศนัก.