เอริค เดินหน้าฟ้อง ปปง. และต่อศาลอาญา พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. เรียกค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ในข้อหาหมิ่นประมาท เหตุกล่าวหาว่า บริษัทมีการโอนเงินให้แก่บุคคลอื่นทั้งใน และนอกประเทศ แม้กิจการอยู่ในภาวะขาดทุน ทั้งที่ก่อนหน้านั้น ก.ล.ต.ตรวจไม่พบทุจริต และบริษัทฯ ยันดำเนินกิจการด้วยความถูกต้อง
นายเอริค มาร์ค เลอวีน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ หรือ CAWOW กล่าวว่า ตามที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง.ได้ออกมาแถลงข่าว กล่าวหาว่า การกระทำของตน และบริษัทแคลิฟอร์เนีย ว้าว เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ทั้งต่อชื่อเสียงในระดับโลก และต่อหน้าที่การงานอย่างมาก ตนจึงมีความความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยได้แต่งตั้งตัวแทน และทนายความในการยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท ณ ศาลอาญา กรุงเทพฯ อีกทั้งเพื่อพิสูจน์ความจริง และเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เคยชี้แจงว่า ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบ บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว และไม่พบข้อมูล หรือหลักฐานที่บ่งชี้ว่าได้มีการกระทำการทุจริต นอกจากนั้น บริษัทตรวจสอบบัญชีระดับสากลที่มีชื่อเสียงของโลก ทั้งดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ และไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ ได้ยืนยันความถูกต้องของการตรวจสอบธุรกรรมของบริษัท โดยไม่พบความผิดปกติในการประกอบธุรกิจของแคลิฟอร์เนีย ว้าว ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ได้แจ้งยุติการสอบสวนแล้วเช่นกัน
“ที่ผ่านมา ผม และกรรมการของบริษัทฯ ได้ให้ความร่วมมือต่อหน่วยงานสอบสวนทุกแห่งด้วยดีมาโดยตลอด เช่นเดียวกับ ปปง. เราได้นำข้อมูลการตรวจสอบทางการเงินของ ก.ล.ต. และการตรวจสอบของบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีไปมอบให้แก่ ปปง. เพื่อแสดงความสุจริต โปร่งใสในการประกอบกิจการ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไม ปปง. และ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ จึงยังกล่าวหาว่า ฉ้อโกงประชาชน ทำให้จำเป็นต้องพึ่งกระบวนการทางศาลเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏแก่สาธารณชน และเรียกร้องความเป็นธรรมเพื่อปกป้องชื่อเสียงให้แก่ตนเอง”
ทั้งนี้ จากสภาพเศรษฐกิจ การแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง และนโยบายการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล ส่งผลให้ธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และจากเอกสารหลักฐานระบุอย่างชัดเจนว่า แทนที่นายเอริค จะเอาเงินออกจากบริษัท ในทางตรงข้ามกลับนำเงินส่วนตัวโอนเข้าบัญชีของบริษัทฯ แทน ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ และในที่สุดก็จำเป็นต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง