xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่” อวดผลงานปี 58 รายได้ทะลุพันล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่” บริษัทย่อย เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ อวดผลงานปี 58 เยี่ยม ปั๊มรายได้ทะลุ 1,072.58 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น พลิกจากขาดทุน 31.88 ล้านบาท มาเป็นกำไรทันที 51.63 ล้านบาท มั่นใจปี 59 จะเป็นปีทองของธุรกิจโรงไฟฟ้าจากการขายไฟเพิ่มเป็น 80 เมกะวัตต์ และธุรกิจบริการ/งานก่อสร้างยังเติบโตต่อเนื่อง

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงานในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยถึงความคืบหน้าของธุรกิจพลังงานว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมา ธุรกิจพลังงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างรวดเร็ว และแข็งแกร่ง จะเห็นได้จากรายได้รวมที่เพิ่มจาก 93.18 ล้านบาทในปี 2557 มาเป็น 1,072.58 ในปี 2558 เติบโตขึ้น979.40 ล้านบาท หรือร้อยละ 1,051.08

โดยรายได้ในปี 2558 มาจากการขายไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ในประเทศญี่ปุ่น 78 ล้านบาท รายได้จากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 687 ล้านบาท รายได้จากการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 270 ล้านบาท และที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ ในขณะที่ผลประกอบการพลิกจากขาดทุน 31.88 ล้านบาทในปี 2557 มาเป็นมีกำไร 51.63 ลบ. หรือเพิ่มขึ้น 261.95%

“ปี 58 จะเห็นว่ารายได้จากการขายไฟยังน้อยมาก เนื่องจากเป็นปีแรกที่เราเริ่มรับรู้รายได้จากการขายไฟให้แก่การไฟฟ้าญี่ปุ่น เพราะโครงการโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเชื่อมสายส่งเพื่อจ่ายไฟในเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงปลายปี 2558 โดยสิ้นสุดไตรมาสที่ 4/2558 โรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นได้เชื่อมต่อสายส่งเพื่อรอขายไฟ จำนวน 23 เมกะวัตต์ และสามารถขายไฟเชิงพาณิชย์ จำนวน 9.08 เมกะวัตต์ จึงทำให้การรับรู้รายได้ในปี 2558 เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 โครงการโรงไฟฟ้าที่เชื่อมต่อสายส่งทั้ง 23 เมกะวัตต์ จะรับรู้รายได้เต็มปี และจะมีโครงการอื่นๆ เชื่อมต่อสายส่งเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2559 “เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่” จะขายไฟเชิงพาณิชย์ได้ถึง 80 เมกะวัตต์ ในขณะที่รายได้อื่นๆ ทั้งการพัฒนาโครงการ และรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าก็ยังเติบโตได้ในทิศทางเดียวกัน” นายอนาวิล กล่าว

ปัจจุบัน บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ประกอบธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ในประเทศญี่ปุ่น โดยดำเนินธุรกิจใน 3 รูปแบบ คือ ลงทุนด้วยตัวเอง โดยเริ่มเฟสแรกที่ขนาด 18 เมกะวัตต์ และเฟสที่ 2 จำนวน 15 เมกะวัตต์ โดยจะรับรู้รายได้ครบทั้งหมดในปี 2559 ส่วนรูปแบบที่ 2 พัฒนาโครงการเพื่อขายให้แก่พันธมิตร และรูปแบบที่ 3 ลงทุนร่วมกันกับพันธมิตร นอกจากนั้น ยังมีโครงการ Solar Rooftop ในประเทศไทย มีการติดตั้งแล้ว 7 เมกะวัตต์ จาก 960 หลังคาเรือน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขั้นตอนการรอเชื่อมต่อสายส่ง

ทั้งนี้ การมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ก็เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการบริษัทฯ CHOW ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ก่อให้เกิดรายได้ และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในอนาคต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น