แรงเข้าซื้อเก็งกำไรยังมีมากในทองคำ หลังสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบต่อๆ ไปได้ตามแผน อีกทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปมีโอกาสลุกลามจนอาจเป็นวิกฤตรอบใหม่เข้ามาช่วยสนับสนุน ประเมินระยะสั้นทิศทางยังขยับขึ้นต่อ เมื่อค่าเงินบาทอ่อนค่ามากขึ้น
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินทิศทางราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาเริ่มมีการแกว่งตัวที่ปั่นปวนหลังจากมีการขยับขึ้นไปมากในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า และเริ่มมีแรงเทขายออกมากดดัน แต่อย่างไรก็ตาม พอราคามีการอ่อนตัวลงจะมีแรงรับซื้อเพื่อเก็งกำไรเข้ามาทำให้ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
“ส่วนหนึ่งมาจากรายงานของคณะกรรมการ FOMC ธนาคคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ออกมาในเชิงที่ว่า เฟดอาจไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ตามแผนเดิม และอาจมีการเปลี่ยนเปลง ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงนี้ และโดยรวมอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เพียงแค่ 2 ครั้ง จากเดิมที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นถึง 4 ครั้ง ซึ่งหมายความว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เพียงอีกครั้งเดียว”
นอกจากนี้ ความปั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนได้กลายมาเป็นอีกสถานการณ์ที่นักลงทุนจับตา และเชื่อว่าจะทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐที่ลุกลามในยูดรโซนอีกครั้ง จึงมีผลบวกต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ดังนั้น การเคลื่อนไหวของราคาทองคำน่าจะมาจากสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น ดังนั้น เมื่อหุ้นมีการปรับตัวลงจะส่งผลให้ราคาทองคำขยับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับราคาน้ำมัน เมื่อมีการดีดตัวขึ้นตลาดหุ้นก็จะขยับตัวบวกตาม แต่เมื่อราคาน้ำมันมีการปรับตัวลง ความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจจะกลับมาซึ่งมีผลให้ราคาหุ้นตัวลง และราคาทองคำปรับตัวขึ้นราคา ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ต้องจับตาเพราะยังมีผลต่อความเชื่อมั่นในราคาทองคำเช่นกัน
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ จากราคาทองคำที่แกว่งตัวผันผวน ดังนั้น เพื่อความรอบคอบนักลงทุนต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ในระยะสั้นยังมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาหากยังทรงตัวในระดับแนวรับ 1,200-1,180 เหรียญ/ออนซ์ ยังแนะนำเข้าทยอยเข้าซื้อ และเมื่อมีการดีดตัวขึ้นให้จับตาที่แนวต้าน 1,260 เหรียญ/ออนซ์ ว่ายังสามารถขยับตัวได้หรือไม่ หากทำได้จะเกิดแรงซื้อตามซึ่งราคาทองคำมีแนวต้านถัดไปที่ 1,300 เหรียญ/ออนซ์
ขณะเดียวกัน ทิศทางค่าเงินบาทถือเป็นอีกปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ โดยมีโอกาสอ่อนค่าลงไปอีก ดังนั้น การเปิดสถานะซื้อน่าจะมีความเสี่ยงที่น้อยลงจากค่าเงินที่อ่อนตัว
