วายแอลจี เตือนราคาทองคำตลาดโลกเดือน ต.ค.พุ่งระยะสั้น แนะนำซื้อขายภายในกรอบ 1,120-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สรุปความเคลื่อนไหวราคทองที่ได้รับผลกระทบจากท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ต่อการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ย ว่า ราคาทองคำตลาดโลกผันผวนอย่างหนักในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลง 19.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1.72% โดยจุดต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 1,102 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,156 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้น 100 บาทต่อบาททองคำ หรือ 0.52% โดยเหวี่ยงตัวในระดับ 850 บาทต่อบาททองคำ หรือ 4.53% จากราคาปิดในเดือนก่อนหน้าที่ 19,250 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การประชุม FED ในวันที่ 27-28 ตุลาคม 2558 นี้ ซึ่งความเห็นของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดพบว่า หากจะมีการขึ้นดอกเบี้ย FED จะขึ้นดอกเบี้ยจากระดับ 0%-0.25% มาอยู่ที่ 0.375% นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่มีความสำคัญอีกคือ เรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ถึงแม้จะมีการพูดคุยกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมก็ตาม เพราะสหรัฐฯ มีเงินที่จะใช้สอยได้เพียงถึงวันที่ 11 ธันวาคมนี้เท่านั้น เนื่องจากใกล้ถึงระดับเพดานหนี้เดิมแล้ว ซึ่งหากสหรัฐฯ ตกลงเรื่องเพดานหนี้ไม่ได้ก็จะเป็นการผิดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ผลเสียที่ตามมาคือ การเสียเครดิต อาจทำให้เกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อเนื่องอีกนาน
นางพวรรณ์ กล่าวถึงกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเดือนตุลาคม แนะนำให้ซื้อขายภายในกรอบ 1,120-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,300-19,750 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากขณะนี้ดอลลาร์เกิดการอ่อนค่าลงอย่างมาก ประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้นักลงทุนหันเข้ามาถือครองทองคำมากขึ้นในฐานะ Safe Haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัย ระยะชั่วคราว
“มองว่าเดือนนี้ทองคำน่าจะเป็นขาขึ้นระยะสั้นไปสักพัก จนกระทั่งเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ แนวรับในช่วงนี้จะอยู่บริเวณ 1,120-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,300 -19,400 บาทต่อบาททองคำ ส่วนแนวต้านอยู่บริเวณ 1,170-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,650-19,750บาทต่อบาททองคำ” นางพวรรณ์ กล่าว