“วาย แอล จี” มองราคาทองคำยังผันผวนในแดนลบต่อเนื่อง หลังสถานการณ์ในกรีซอาจไม่รุนแรง หรือบานปลาย แนะตั้งสถานะขายในช่วง 1,225 เหรียญ/ออนซ์ หากไปไม่ถึง 1,240 เหรียญ/ออนซ์ ทองคำยังเคลื่อนไหวในขาลง
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน จำกัด กล่าวถึงราคาทองคำว่า ในช่วงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ราคาทองคำมีความผันผวน ส่วนหนึ่งมาจากที่ผ่านมา ตลาดเงิน และตลาดทุนในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่หยุดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน โดยราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นจากแรงหนุนของการอ่อนตัวลงของสกุลเงินดอลาร์สหรัฐ จากการเปิดเผยข้อมูลผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อ 27-28 ม.ค. มีการเปิดเผยว่า คณะกรรมการยังมีความวิตกกังวัลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
“ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นได้บ้าง แต่ราคาเริ่มกลับมาอ่อนตัวลงอีก เมื่อ S&P ออกมาแสดงความเห็นว่า ออกมาว่าสถานการณ์ในกรีซอาจจะไม่รุนแรงจนน่าวิตก หรือบานปลาย เพราะยุโรปมีการจัดตั้งกองทุนรักษาเถียร์ภาพ (ESM) ซึ่งจะช่วยสถาบันการเงินสามารถรับมือความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ หากกรีซมีการถอนตัวออกจากกลุ่มยูโรโซนทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำจึงถูกเทขายออกมาอีกครั้ง”
โดยปัจจัยที่ยังต้องติดตามยังเป็นสถานการณ์ในกรีซ ว่า จะสามารถตกลงกับประเทศเจ้าหนี้ทางการเงินได้หรือเปล่า หลังมีการเจรจาตกลงกันหลายครั้งแต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อีกทั้งต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเคลื่อนไหวของค่าเงินสหรัฐฯ จากเศรษฐกิจที่กลับขึ้นมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสดใสรวมถึงถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อเร็วๆ นี้ รวมไปถึงการอัดฉีดภาพคล่องในยุโรปเช่นกัน
ทำให้กลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวแบบ Side Way Down หรือแกว่งตัวในแบบที่มีทิศทางที่อ่อนตัวลง ทำให้มีแนวรับ 1,190 -1,160 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้าน 1,225-1,240 เหรียญ/ออนซ์ และเมื่อมีการย่อตัวลงมาจนทำจุดต่ำสุดใหม่ มักจะเกิดการเทคนิเคิล รีบาวนด์ขึ้นระยะสั้น นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเข้ามาลงทุนระยะสั้นในการเก็งกำไร แต่เมื่อราคาปรับขึ้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ให้มองไปที่การเปิดสถานนะขายที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ โดยในระยะสั้นให้มองโซนแนวรับ 1,225 เหรียญ/ออนซ์ เป็นจุดเปิดสถานะขาย และหากไม่สามารถกลับขึ้นไปเหนือ 1,240 เหรียญ/ออนซ์ ทิศทางของราคายังคงมีทิศทางที่เป็นลบอยู่