“วายแอลจี” มองกลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ราคาทองคำแกว่งตัว ขายเมื่อปรับตัวขึ้น และเข้าซื้อเมื่อย่อตัว ชี้สถานการณ์ราคาน้ำมัน และดีมานด์ทองคำแท่งในจีนยังช่วยผลักดันราคา
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงหนุนของสินทรัพย์ปลอดภัยหลายประเภทที่อ่อนตัวลงตามราคาน้ำมัน รวมถึงหุ้นในกลุ่มพลังงาน
“ตอนนี้มีการเชื่อกันว่า บริษัทเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันต่างๆ อาจมีผลประกอบการที่ลดลง ส่งผลให้มีการเทขายออกมา นอกจากนี้ ทองคำยยังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อในทองคำแท่งที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน ที่มีกระแสว่า ทางการจีนอาจมีการลดต้นทุนกู้ยืมลงเพื่อผ่อนคลายสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น แต่พอราคาน้ำมันมีการปรับฐานได้ เละเริ่มปรับตัวสูงขึ้นก็ทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไรออกมาจนราคาปรับตัวลง”
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจึงยังตรึงแนวรับ 1,180 เหรียญ/ออนซ์ และแนวรับสำคัญ 1,150 เหรียญ/ออนซ์ ขณะที่แนวต้านประเมินไว้ที่ 1,250-1,270 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากในระยะสั้นราคาทองคำมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น นักลงทุนที่ถือครองต้องติดตามแรงต้านที่ 1,220 เหรียญ/ออนซ์ หากไม่สามารถยืนเหนือราคาดังกล่าวได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น ให้เกิดการปรับปรับตัวลงมาปรับฐานที่ 1,180 เหรียญ/ออนซ์
“แต่หากการตั้งฐานยังยืนเหนือ 1,180-1,150 เหรียญ/ออนซ์ ยังประเมินว่าจะเกิดแรงซื้อเก็งกำไรและราคาทองคำมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ 1,250 เหรียญ/ออนซ์ แต่หากยังไม่สามารถผ่านได้ แต่ยังมีการปรับตัวขึ้นอีกครั้ง แนะนำผู้ที่มีทองคำถือครองทยอยนำทองคำออกขาย และรอการย่อตัวลงมาค่อยกลับเข้าไปลงทุยซื้อ ในลักษณะการเก็งกำไรรอบการแกว่งตัว”
