“วาย แอล จี” ชี้ความผันผวนของค่าเงินสวิตเซอร์แลนด์ดันราคาทองคำปรับตัวเพิ่ม มองเศรษฐกิจจีนไม่ว่าดีหรือร้ายต่างช่วยผลักดันราคาทองคำ เตือนหากราคาพุ่งแรงแตะ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ ระวังแรงขายใหญ่
“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า หลังธนาคารกลางสวิสมีการยกเลิกเพดานสกุลเงินที่ใช้มาเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ส่งผลให้เกิดความผันผวนของสกุลเงินสวิส และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ รวมถึงตลาดเงิน ดังนั้น ทองคำในฐานะสินทรัพย์ความปลอดภัยจึงได้รับความนิยม มีแรงซื้อเพิ่มขึ้น
“นอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้ง บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มีการประกาศปรับลดเกรดประเทศผู้ผลิตนำมัน หลังราคาน้ำมันมีการดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จนมีแนวโน้มเกิดภาวะถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศ อันเนื่องมาจากการกำไรจากการขายน้ำมันที่ลดลง จึงมีการจับตาบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่”
ทั้งนี้ หากประเทศผู้ผลิตน้ำมันถูกปรับลดอันดับเครดิตลงมา จะส่งผลต่อสถานะการเงินของประเทศนั้นๆ และส่งผลต่อการปล่อยกู้ และการกู้เงินจากต่างประเทศ ซึ่งนำมาซึ่งความปั่นป่วนต่อสินทรัพย์โดยรวม และเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจน ซึ่งทำให้ในระยะสั้นราคาทองคำยังได้รับแรงสนับสนุน และมีแรงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตาม คือ การเปิดตัวเลขจีดีพีของจีน เพราะหากตัวเลขเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตค่อนข้างมากจะส่งผลต่อแรงซื้อทองคำ เนื่องจากจีนเป็นชาติที่บริโภคทองคำเป็นอันดับ 1 ของโลก แต่ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจจีนลดลง ต้องติดตามทางการจีนจะแสดงท่าทีออกมาอย่างไร เพราะอาจมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ลดการสำรองในภาคธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าจะกลายเป็นปัจจัยบวกให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน
นอกจากนี้ ต้องดูธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่หรือเปล่า หากมีการประกาศอัดฉีดครั้งใหญ่อาจทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง จนทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตาม แต่ถ้าประเด็นดังกล่าวสร้างความผันผวนต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม ก็เชื่อว่าอาจทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงติดตามดูการเลือกตั้งของกรีซ ที่อาจมีโอกาสเสี่ยงถูกออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซน
ดังนั้น กลยุทธ์ในการลงทุนเมื่อราคามีการปรับขึ้นมาค่อนข้างแรง แนะนำให้ทยอยขายทองคำเพื่อทำกำไรออกมาบ้าง และเมื่อมีราคามีการย่อตัวลง แนะนำให้เปิด Long Position หรือเข้าซื้อ โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,240-1,260 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากราคาย่อตัวลง และอยู่เหนือ 1,220 เหรียญ/ออนซ์ไว้ได้ มองว่าในระยะสั้นยังมีทิศทางที่ค่อนข้างเป็นบวก แต่หากมีการดีดตัวขึ้นพ้น 1,280 เหรียญ/ออนซ์ ทองคำยังมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,300 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำไม่มีการพักฐาน โดยขึ้นต่อเลยนักลงทุนควรระวังความเสี่ยงที่จะเกิดแรงเทขายไว้ด้วย
