ศูนย์วิจัยฯ เผยราคาทองฟื้นตัวแรงได้อานิสงส์จีนลดเงินหยวน 2 วันติดต่อกัน ชี้ตลาดกังวลเกิดภาวะสงครามค่าเงิน ส่งผลอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน โยกลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในระยะยาวตลาดยังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า จากการที่จีนลดค่าเงินหยวน 2 วันติดต่อกันประมาณร้อยละ 3.5 ทำให้ราคาทองคำระยะสั้นปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดเงินกังวลว่าจะเกิดภาวะสงครามค่าเงิน ทำให้ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน นักลงทุนหันมาซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแทน ประกอบกับที่ผ่านมา ทองลดลงต่ำกว่า 1,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้ราคาทองฟื้นตัวแรง โดยประเมินกรอบราคาทองคำช่วงระยะสั้น 1,140-1,150 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 19,000 บาท ส่วนระยะยาว ช่วงปลายไตรมาส 3/2558 มีโอกาสที่ราคาทองคำจะปรับลงจากการกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย และดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่ามากขึ้น โดยมองว่าจะอยู่ที่ 1,077 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และมีโอกาสจะต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 17,000 บาท ซึ่งเหมาะต่อการลงทุนระยะยาวภายใต้ค่าเงินบาทที่ 34.50-36.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนสิงหาคม 2558 พบว่า อยู่ที่ 43.87 จุด ต่ำกว่าระดับ 50 จุด เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทำให้มุมมองของผู้ลงทุน และผู้ค้าทองคำเป็นไปในเชิงลบ ประกอบกับเดือนที่ผ่านมา ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลงกว่าร้อยละ 7.5 แต่กลุ่มตัวอย่างยังเชื่อว่า ราคาทองคำจะอ่อนตัวไม่มาก เนื่องจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาทยังหนุนราคาทองคำในประเทศ
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นราคาทอง 3 เดือนข้างหน้า มองว่า ยังปรับตัวลง โดยลดลง 2.31 จุด มาอยู่ที่ 49.28 จุด สะท้อนความไม่แน่ใจในการฟื้นตัวของราคาทองคำระยะกลาง โดยปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังคงเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ