ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ เผยผลการดำเนินงานปี 2558 กำไรสุทธิ 123.5 ล้านบาท เติบโต 11.1% สวนกระแสเศรษฐกิจซึม หลังรายได้จากผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมือง อาหารทะเลแปรรูปเติบโตได้ดี ขณะที่การขยายสาขาร้านอาหารบริการด่วนช่วยหนุน พร้อมเปิดเกมรุกตลาดปี 2559 ตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องอีก 15% ด้านบอร์ดฯ บริหารมีมติจ่ายปันผลเป็นเงิน 2.75 บาทต่อหุ้น พร้อมประกาศเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นปัจจุบันในราคาพาร์อัตรา 3:1 ชูกลยุทธ์รุกส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวเจาะตลาดต่างประเทศ และปรับภาพลักษณ์แบรนด์กลุ่มร้านอาหารบริการด่วน รับแผนขยายธุรกิจดันการเติบโตก้าวกระโดด
นายเจริญ รุจิราโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ หรือ SORKON กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2558 ว่า สามารถผลักดันการเติบโตได้ดี โดยมีกำไรสุทธิ 123.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 111.1 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 2,394 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,233 ล้านบาท โดยปัจจัยการเติบโตมาจากยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมือง ซึ่งมีสัดส่วนยอดขายสูงสุดของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโต 8.5% หลังจากที่รุกทำกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
“ปีที่ผ่านมา เราสามารถทำผลการดำเนินงานให้เติบโตได้ดี แม้ต้องเผชิญต่อภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัว โดยสามารถผลักดันการเติบโตของสินค้ากลุ่มอาหารพื้นเมือง และกลุ่มอาหารทะเลแปรรูป ที่มีสัดส่วนยอดขายคิดเป็นเกือบ 80% ให้เติบโตขึ้น และการบริหารจัดการฟาร์มสุกรอย่างมีประสิทธิภาพได้เข้ามาช่วยเสริมในแง่ของผลการดำเนินงานอีกด้วย”
ขณะเดียวกัน แผนดำเนินงานในปี 2559 นั้น บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 15% ซึ่งจะมาจากการรุกขยายธุรกิจทั้งในไทย และต่างประเทศต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เตรียมขยายตลาดผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวไปยังตลาดในตะวันออกกลาง พร้อมทั้งได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ร้านอาหารบริการด่วนใหม่จาก “แซ่บ เอ็กซเพรส” เป็นแบรนด์ แซ่บ คลาสสิค รองรับการเพิ่มรายการเมนูอาหาร และเครื่องดื่มที่จะมีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงจะพัฒนาหน่วยรถเคลื่อนที่จำหน่ายกับข้าวเพื่อรุกเข้าถึงผู้บริโภคในแหล่งชุมชน ควบคู่กับการขยายสาขาในรูปแบบการขายแฟรนไชส์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับผลตอบรับดีจากการขยายสาขาร้านอาหารบริการด่วน (QSR) โดยปัจจุบันมีร้านข้าวขาหมูยูนนาน และร้านแซ่บคลาสสิค รวมทั้งหมด 40 สาขา แบ่งเป็นในประเทศไทย 38 สาขา และใน สปป.ลาว อีก 2 สาขา ที่ส่งผลต่อภาพรวมยอดขายจากกลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป และธุรกิจฟาร์มสุกร ก็ล้วนมีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นกัน
ขณะเดียวกัน จะขยายสาขาร้านข้าวขาหมูยูนนานเพิ่มเติมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งล่าสุด ได้เปิดสาขาที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 นี้ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และมีส่วนช่วยให้ยอดขายจากร้านอาหารบริการด่วนในปีนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด รวมถึงผลักดันให้ภาพรวมยอดขายในปีนี้เติบโตตามเป้าที่วางไว้
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานรอบปี 2558 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 2.75 บาท และอนุมัติให้บริษัทฯ ทำการเพิ่มทุนในอัตรา (หุ้นเดิม : หุ้นเพิ่มทุน) 3 ต่อ 1 ในราคาพาร์ 10 บาท ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ร่วม 80 ล้านบาท เพื่อการลงทุนในโครงการประจำปี 2559 โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2559 และกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันเงินผลในวันที่ 13 พฤษภาคม 2559 ซึ่งกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2559